กรมปศุสัตว์เปิดตลาดปลอดสารพิษแห่งที่ 2 ในนครพนม

กรมปศุสัตว์เปิดตลาดปลอดสารพิษแห่งที่ 2 ในนครพนม กรมปศุสัตว์ เปิดตลาดขายสินค้าเกษตรปลอดสารพิษแห่งที่ 2 ในนครพนม หลังส่งเสริมการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนให้เกษตรกรมีความเข้มแข็ง เพิ่มรายได้จากการทำเกษตรอินทรีย์ ทั้งการเลี้ยงสัตว์ ปลูกผักสวนครัว...

เมื่อวันที่ 23 ก.ย.2555 นายปัญญา ธรรมศาล ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมสัตว์เล็กและสัตว์ปีก กรมปศุสัตว์รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้นำชุมชน ร่วมเปิดตลาดนัดจำหน่ายสินค้าผลผลิตการเกษตรปลอดสารพิษ ของกลุ่มเกษตรอินทรีย์ ต.นาขาม อ.เรณูนคร จ.นครพนม เพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้ชาวบ้านสนใจเรื่องการทำอาชีพการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ปลูกผักสวนครัว ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง แบบเกษตรอินทรีย์ที่ใช้วัตถุดิบจากภูมิปัญญาชาวบ้านในการลดต้นทุนการผลิต และปลอดสารเคมี เน้นเงินหมุนเวียนภายในท้องถิ่น ให้เกษตรกรมีอาชีพ มีรายได้ พึ่งพาตนเองได้ และยังส่งเสริมให้ประชาชนได้บริโภคสินค้าการเกษตรที่สะอาดปลอดภัยจากสารพิษ และมีราคาถูกกว่าท้องตลอด ซึ่งได้ดำเนินการเปิดตลาดสินค้าเกษตรอินทรีย์เป็นแห่งที่ 2 โดยแห่งแรกอยู่ในพื้นที่บ้านนาราชควาย ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม

นายปัญญา กล่าวว่า ปัจจุบันนโยบายของกรมปศุสัตว์ได้เน้นส่งเสริมเกษตรกรรายย่อยให้เข้มแข็ง ด้วยการรวมตัวกันจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนในการทำการเกษตร ควบคู่กับการเพิ่มช่องทางการตลาด เริ่มจากการทำในชุมชน เน้นสินค้าเกษตรปลอดสารพิษ ให้เงินหมุนเวียนในชุมชน เมื่อผลผลิตมากขึ้นจะได้ขยายสู่ตลาดภายนอก โดยได้มอบหมายให้ปศุสัตว์ในพื้นที่เข้าไปดูแลส่งเสริม สนับสนุนทุกด้าน ในการทำการเกษตรที่ลดต้นทุน และปลอดสารพิษ ป้อนตลาดในชุมชนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนมีอาชีพ มีรายได้ที่ยั่งยืน และยังได้บริโภคสินค้าเกษตรปลอดภัยอีกด้วย

ด้านนายพงษ์ศักดิ์ วรคันทักษ์ ประธานกลุ่มเกษตรอินทรีย์ บ้านยอดโพธิ์ ต.นาขาม กล่าวว่า กลุ่มเกษตรอินทรีย์บ้านยอดโพธิ์ ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงหมูหลุม ลดมลภาวะ รวมถึงเลี้ยงสัตว์แบบเกษตรอินทรีย์ ที่สามารถลดต้นการผลิตได้กว่า 50% ซึ่งในการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ต.นาขาม จะเน้นเรื่องการผลิตเอง กินเอง โดยจะเป็นสินค้าที่สะอาดปลอดภัย ไม่มีสารพิษเจือปน เนื่องจากสินค้าการเกษตรทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นหมู จะเลี้ยงด้วยอาหารจากเกษตรอินทรีย์ และไม่ใช้สารพิษในการทำการเกษตรปลูกพืชผักสวนครัว ซึ่งปัจจุบันทำให้ชาวบ้านเริ่มพึ่งตนเองได้ เพราะมีต้นทุนต่ำ ทำให้ เพิ่มผลกำไร ส่วนอาชีพหลัก จะปลูกพืชผักสวนครัว รวมถึงการเลี้ยงหมู เป็ด ไก่ ชำแหละส่งขายในตลาดชุมชนที่เปิดรองรับ ทำให้เงินหมุนเวียนภายในชุมชน และยังช่วยให้ชาวบ้านได้บริโภคสินค้าการเกษตรที่สะอาดปลอดภัย และมีราคาถูกกว่าท้องตลาด

อ้างอิง:www.thairath.co.th

ส่งความคิดเห็น