โคเนื้อเพื่อสุขภาพ ไขมันต่ำ

ลูกผสมเชียงใหม่บราวน์ โคเนื้อเพื่อสุขภาพ ไขมันต่ำ “คุณภาพ” กับ “ความปลอดภัย” ปัจจุบันเป็นโจทย์หลักของกลุ่มผู้บริโภค และถึงแม้ว่ากระแสการเลือก “เปิบ” สัตว์เล็กอย่างไก่ ปลา ในเวลานี้จะมีแนวโน้มที่สูงขึ้นเพียงใดก็ตาม แต่นักวิชาการไทยเราก็ยังคงให้ความสำคัญในการพัฒนาปรับปรุงพันธุ์สัตว์ใหญ่อย่าง “โค” เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศให้มีความเพียงพอ

นายสันติ แพ่งเม้า นักวิชาการสัตวบาลปฏิบัติการ สำนักพัฒนาพันธุ์สัตว์ กรมปศุสัตว์ บอกกับ “หลายชีวิต” ว่า การเลี้ยงโคนมในประเทศไทยที่ผ่านมา พบว่าต้องใช้วิธีการเลี้ยง การจัดการแบบเข้มข้น ที่มีค่าใช้จ่ายทั้งในด้านอาหารหยาบ อาหารข้น และค่ายารักษาโรคที่ต้องลงทุนสูง ซึ่งฟาร์มขนาดเล็กไม่สามารถทำได้ ประกอบกับอายุการใช้งานของโคในการเป็นพ่อแม่พันธุ์สั้น เนื่องจากการไม่ทนต่อสภาพแวดล้อม โรคแมลง และยังผสมติดยาก

เพื่อแก้ปัญหา ทีมงานจึงได้วิจัยปรับปรุงสายพันธุ์โคใหม่ ที่ ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์เชียงใหม่ โดยการนำโคพันธุ์ ซาฮิวาล พันธุ์ โฮลสไตน์ฟรีเชี่ยน หรือโค ไทยฟรีเชี่ยน ระดับเลือดสูง มาผสม กระทั่งได้ “โคลูกผสมเชียงใหม่บราวน์” ที่มีน้ำหนักแรกเกิดเฉลี่ย 38 กิโลกรัม อัตราการเจริญเติบโตช่วงก่อนและหลังหย่านมเท่ากับ 675 และ 463 กรัม/วัน ตามลำดับ

...ลำตัว มีสีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม หรือดำ อาจพบจุดสีขาวได้บ้าง เช่น ท้อง หน้าผาก ปลายเท้า และหาง การดูแลเลี้ยงดูง่าย เหมือนกับโคนมทั่วไป คือทำการแยกลูกจากแม่หลังคลอด แล้วให้กินนมวันละ 4 กิโลกรัม เสริมด้วยอาหารข้นพร้อมกับน้ำและหญ้าแห้ง สูญเขาและหย่านมเมื่ออายุ 3 เดือน โดยโคลูกผสมดังกล่าวยังพบว่า ทนร้อน ทนโรคและแมลง ผสมติดง่าย

มีความคล่องแคล่ว กระฉับกระเฉง มองเห็นกล้ามเนื้อได้ชัด อีกทั้งอายุการใช้งานนาน และสามารถใช้ประโยชน์จากโคเพศผู้ได้ ในรูปการเลี้ยงแบบพื้นบ้านหรือธรรมชาติ เนื่องจากสายพันธุ์ลูกผสมนี้จะอยู่ในสภาพทนร้อน ใช้อาหารหยาบคุณภาพต่ำเยื่อใยสูงได้ สามารถปล่อยเล็มหญ้าได้นาน

โคลูกผสมเชียงใหม่บราวน์ จึงเหมาะที่จะผลิตเป็นเนื้อโคเพื่อสุขภาพ ไขมันต่ำ สำหรับใครที่สนใจสามารถแวะชมได้ในงาน “การนำเสนอผลงานวิจัยแห่งชาติ 2555” (Thailand Research Expo 2012) ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ราชประสงค์ ได้ถึงวันนี้ (28 ส.ค.)

อ้างอิง:www.thairath.co.th

ส่งความคิดเห็น