ฟาร์มเกษตร
ครบเครื่อง เรื่องปุ๋ยยา
ช่องทางการสั่งซื้อสินค้าจากฟาร์มเกษตร
1. โทรสั่งซื้อที่ 089-459-9003
2. แอดไลน์ไอดี PrimPB แชทสั่งซื้อ
3. สั่งทางเฟสปริม เฟสบุ๊คปริมคลิกที่นี่
4. สั่งผ่านะระบบตระกร้าสินค้า FKX.asia
5. สั่งผ่านเว็บลาซาด้า LAZADA.co.th
ทุกช่องทาง ชำระเงินขณะรับสินค้าที่บ้านคุณ
หมวด: ยางพารา | อ่านแล้ว 5060 คน | สั่งพิมพ์หน้านี้ | L

บิ๊กตู่ ทุบโต๊ะขีดเส้น 3 เดือน โละบอร์ดยาง

บิ๊กตู่ ทุบโต๊ะขีดเส้น 3 เดือน โละบอร์ดยาง

โละบอร์ดยาง - นายกฯให้เวลา 3 เดือนให้ทุกหน่วยไปทำการบ้านมาใหม่ หากไม่เห็นผลอีกจะรื้อบอร์ดปรับใหม่ทั้งหมด โดยย้ำว่า..

data-ad-format="autorelaxed">

โละบอร์ดยาง

ธ.ก.ส. เตรียมไล่บี้ทวงเงิน กยท.อีกรอบ หลังส่อแววชักดาบ ลักไก่ขอมติที่ประชุม กนย. นำเงินขายยาง 2 โครงการร่วมพันล้าน ไปหมุนเป็นค่าบริหารจัดการ ด้าน “ประยุทธ์” ไม่พอใจบอร์ด ขีดเส้น 3 เดือน แก้ปัญหาราคายางไม่เห็นผล โละทิ้งยกยวง ฟาก”กยท.” โชว์แผนขายยางเก่าในสต๊อก 3.1 แสนตัน ภายใน 10 เดือน กลุ่มเกษตรกรค้านหวั่นทุบราคาดิ่ง

 

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในเร็ว ๆ นี้ ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะทำหนังสือทวงเงินขายยางในสต๊อกรัฐบาล 2 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง รวมวงเงินกู้ 2.1 หมื่นล้านบาท และ โครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายาง(บัฟเฟอร์ฟันด์) อีกจำนวน 8.8 พันล้านบาท

 

ทั้งนี้เป็นผลจากที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.)ได้เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายย่างธรรมชาติ (กนย.)ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา โดยจะขอนำเงินรายได้จากการขายยางใน 2 โครงการข้างต้น ซึ่งประเมินแล้วร่วมพันล้านบาท เพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน เรื่องนี้มองว่าไม่ถูกต้อง เพราะเงินดังกล่าวเป็นเงินกู้จาก ธ.ก.ส. ดังนั้นขายได้เท่าไร ก็ต้องส่งคืนก่อน แต่อยู่ ๆ จะตัดเพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ซึ่งมองเจตนาแล้วอาจจะเข้าข่ายส่อทุจริต

 

“บรรยากาศในที่ประชุม กนย.ครั้งล่าสุด ค่อนข้างตึงเครียด และพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธาน กนย.และประธานในที่ประชุมไม่พอใจการดำเนินงานของบอร์ด ไม่ว่าจะเป็น 1.เรื่องแผนยุทธศาสตร์ยางพาราที่ยังไม่มีความคืบหน้า 2.แผนการใช้ยางพาราในประเทศก็ยังไม่เพิ่มขึ้น 3.ให้หน่วยงานแต่ละกรมที่เกี่ยวข้องกับยางพาราต้องปรับเปลี่ยนเป็นการทำงานเชิงรุก จะต้องมีแผนระยะสั้น ระยะยาว หากเกิดราคายางตกต่ำ หรือมีปัจจัยเสี่ยงอะไรข้างหน้า จะต้องเตรียมมาตรการแก้ไขให้ทันท่วงที”แหล่งข่าวกล่าวและว่า

 

นายกรัฐมนตรีให้เวลา 3 เดือนให้ทุกหน่วยไปทำการบ้านมาใหม่ หากไม่เห็นผลอีกจะรื้อบอร์ดปรับใหม่ทั้งหมด โดยย้ำว่าไม่ต้องมารายงานเหตุการณ์ในอดีต ท่านอยากจะฟังสถานการณ์ปัจจุบัน การพยากรณ์ในอนาคต เพื่อที่แก้ปัญหาก่อน ไม่ใช่เกิดปัญหาแล้วมาตามแก้ภายหลัง”

 

ต่อเรื่องนี้นางจินตนา ชัยยวรรณาการ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามระเบียบไม่ว่าจะเป็นการขายข้าว มันสำปะหลังในสต๊อกรัฐบาล จะต้องคืนเงินให้กับ ธ.ก.ส. ก่อนเนื่องจากเงินที่นำมาใช้บริหารจัดการเป็นเงินกู้จาก ธ.ก.ส. ขณะที่หน่วยงานที่รับผิดชอบในการะบายจะต้องขอเงินชดเชยการขาดทุนจากการขาย รวมทั้งเงิน ค่าบริหารจะต้องแยกออกมาต่างหาก ไม่เกี่ยวกับที่จะต้องคืนกับ ธ.ก.ส. การจำแนกออกมาจะต้องให้เด่นชัด อาทิ ขายในโครงการไหน ราคาเท่าไร ก่อนนั้นมาซื้อราคาเท่าไร โครงการนี้ขาดทุนเท่าไร จะทำมั่วไม่ได้ ไม่งั้นจะถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.)เล่นงาน

 

ส่วนของกระทรวงมีหน้าที่เพียงกำกับดูแลห่างๆ จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เพราะรัฐวิสาหกิจมีบอร์ดบริหารอยู่แล้ว แต่ถ้าผิดหลักปฎิบัติก็ต้องติงด้วยหลักการที่ถูกต้องเท่านั้น ส่วนมติการระบายยางในสต๊อก 3.1 แสนตันนั้นเป็นไปตามที่ กยท.เสนอขายในราคาตลาด เป้าหมายการระบายยางทั้ง 2 โครงการให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม 2560

ด้านแหล่งข่าวจากกนย. เปิดเผยถึงแผนการระบายยาง ใน 2 โครงการ จำนวน 3.18 แสนตันมีระยะเวลา 10 เดือน เริ่มตั้งแต่สิงหาคม 2559 ถึงพฤษภาคม 2560 ว่า ในเดือนสิงหาคมจะเป็นการขายยางในโครงการพัฒนาศักยภาพฯ จำนวน 8.42 พันตัน และในโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯอีก 1.27 หมื่นตัน, ขณะที่กันยายน ขายในโครงการพัฒนาศักยภาพฯ 2.78 หมื่นตัน และโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ 702.9 ตัน ส่วนตุลาคม ขายในโครงการพัฒนาศักยภาพฯ 3.12 หมื่นตัน และพฤศจิกายน ในโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ 3.99 หมื่นตัน และเดือนธันวาคม ในโครงการพัฒนาศักยภาพฯ 3.75 หมื่นตัน

 

ขณะที่เดือนมกราคม 2560 แผนขายยางในโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ 2.67 หมื่นตัน ,เดือนกุมภาพันธ์ ในโครงการมูลภัณฑ์กันชนฯ 3.12 หมื่นตัน ,เดือนมีนาคม ในโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ 3.65 หมื่นตัน,เดือนเมษายน ในโครงการพัฒนาศักยภาพฯ 1.62 หมื่นตัน และในโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ 1.43 หมื่นตัน และเดือนพฤษภาคม ในโครงการพัฒนาศักยภาพฯ 1.44 หมื่นตัน และในโครงการสร้างมูลภัณฑ์กันชนฯ จำนวน 2 หมื่นตันเศษ ทั้งนี้การขายยางจะเริ่มจากโกดังที่เช่าเอกชนก่อน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย

 

ส่วนกรอบแนวทางการระบายให้เอกชนจะมี 3 วิธี ประกอบด้วย 1. การประมูล ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามหลักเกณฑ์ของ กยท. 2.การเจรจาต่อรองกับเอกชน โดยการกำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมเจรจา และ 3. ดำเนินการระบายสต๊อกยางทั้ง 2 วิธี โดยจะดำเนินการกันอย่างโปร่งใส ทั้งนี้การขายยางในส่วนของ กยท. ได้เหตุผลว่าราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ที่ตลาดกลางยางพาราเฉลี่ยกิโลกรัมละ 50-53 บาท ในขณะที่ราคาเอฟโอบี เฉลี่ยกิโลกรัมละ 53-55 บาท ซึ่งใกล้เคียงกับราคาเดิมที่กำหนดให้ขายในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 60 บาท(แต่ปัจจุบัน ปัจจุบันค่าเช่าโกดังในปี 2559 ใน 2 ปีงบประมาณ ค่าเช่าโกดัง/ค่าเบี้ยประกันภัย ใน 2 โครงการนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานกว่า 511 ล้านบาท

 

ด้านนายเหวิน แซ่จาง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไชน่าไทยรับเบอร์ จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ราคายางในประเทศจีนในขณะนี้ สูงกว่าในประเทศไทย ทำให้ผู้ส่งออกพอมีกำไรบ้างเล็กน้อย แต่ถ้ารัฐบาลจะระบายยางในสต๊อก สถานการณ์ที่เหมาะสมน่าจะเป็นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เพราะช่วงนี้ปริมาณยางของเกษตรกรเริ่มออกมาแล้วคาดว่าจะมีออกมาในช่วงเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายนจะกระทบกับราคายางในประเทศ

 

เช่นเดียวกับนายอุทัย สอนหลักทรัพย์ กรรมการ กนย.และประธานสภาเครือข่ายและสถาบันเกษตรกรยางพาราแห่งประเทศไทย (สยยท.) กล่าวไม่เห็นด้วย ที่จะมีขายยางในสต๊อกช่วงนี้ มองว่าจะเป็นทุบราคายางให้ตกต่ำมากกว่านี้ ซึ่งในวันที่ 16 กันยายนนี้ จะมีการรวมตัวกันของคนในวงการยางทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการเพื่อหารือเกี่ยวกับมติ กนย. เรื่องการขายยางในสต๊อก และจะมีการจัดเสวนา “อนาคตยางพาราบนบริบทไทยแลนด์ 4.0” ที่โรงแรมเอส.ดี.อเวนิว

 

ขณะ 2 ผู้ค้ายางรายใหญ่ทั้งนายหลักชัย กิตติพล ประธานกรรมการบริหาร บริษท ไทยฮั้วยางพาราจำกัด (มหาชน) และ ท.พ.พงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต กรรมการผู้จัดการบริษัท วงศ์บัณฑิต จำกัด ให้ความเห็นในทิศทางเดียวกัน โดยระบุว่า การระบายยางในสต๊อก 3.1 แสนตันไม่มีผลกับราคายางในประเทศ เพราะปัจจุบันดีมานต์ความต้องการยางในตลาดโลกมีมากกว่าซัพพลาย จากผลผลิตมีน้อย ประกอบกับภาวะฝนตกในหลายพื้นที่สร้างความกังวลให้ผู้ประกอบการเร่งซื้อยาง เพราะเกรงจะขาดแคลนยางส่งมอบ

 

source: thansettakij.com/2016/09/08/95008


อ่านเรื่องนี้แล้ว : 5060 คน £




ความคิดเห็นจากผู้อ่าน:

ส่งความคิดเห็น



เลือกหมวด :

แสดงเนื้อหารวมจากทุกหมวด, สินค้าเกษตร, ไอเดียและเทคโนโลยีเกษตร, รวม VDO เด่นจาก FK, นาข้าว, เศรษฐกิจเกษตร, ภาพถ่ายเกษตร, ไร่อ้อย, มันสำปะหลัง, ยางพารา, ปาล์มน้ำมัน, ไร่ข้าวโพด, ผักและการปลูกผัก, การปลูกพืช, ไม้ผล ไม้ยืนต้น, เกษตรน่ารู้, สมุนไพร, ไม้มงคล, พุทธศึกษา, FK Talk, สุขภาพ, การใช้ SUN กับพืชต่างๆ, แอพฯด้านเกษตร, ไม้ดอก ไม้ประดับ, องค์กรด้านเกษตร, ซื้อขายที่ดิน, ห้องปศุสัตว์, ประมง, เกษตรกรตัวอย่าง, ฟาร์มเกษตรพาเที่ยว, FK Freestyle, Agri live update, ออแกนิกส์, จักรกล, อุปกรณ์การเกษตร, ไร่กาแฟ,


แสดงทั้งหมดใน [ยางพารา]:
ยางพารายอดแห้ง ยางพาราตายจากยอด ยางยืนต้นตาย สาเหตุและการักษา
ปล่อยไว้ก็จะตายมาถึงโคน และต้นตายไปในที่สุด อาการนี้เรียกว่าโรคตายจากยอด ในยางพารา มักจะเกิดกับต้นยางพาราเล็ก..
อ่านแล้ว: 8462
โรคใบจุด ยางพารา โรคใบจุดตานก ทำให้ใบร่วง ชะงักโต แก้ด้วย ไอเอส
โรคใบจุดตานก นี้ทำให้ใบยางพาราหลุดร่วง โตช้า หรือชะงักการเจริญเติบโต และได้ผลผลิตน้อยลง
อ่านแล้ว: 7566
หนอนทรายในสวนยางพารา ยางจะค่อยๆล้มไปทีละต้น แก้ไขและป้องกันได้
หนอนทราย ที่เป็นศัตรูพืชของยาพารา เป็นตัวอ่อนของด้วงปีกแข็งชนิดหนึ่ง จัดเป็นหนอนที่มีขนาดใหญ่ ลำตัวอ้วนป้อม มีกลามใหญ่
อ่านแล้ว: 7508
นายกฯฝากประธาน JETRO หนุนอุตฯแปรรูปยางพาราไทย
ประธาน JETRO เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี บิ๊กตู่ฝากช่วยสนับสนุนการแปรรูปยางพาราไทย
อ่านแล้ว: 6688
วว. แก้ปัญหายางล้นตลาดด้วยนวัตกรรม
ดันถุงมือผ้าเคลือบยาง แผ่นเสริมรองเท้าเพื่อสุขภาพ แผ่นยางปูพื้น ชุดวัสดุป้องกันการกัดเซาะตลิ่งจากธรรมชาติเพิ่มมูลค่ายาง
อ่านแล้ว: 7661
วัสดุชีวภาพรักษ์โลก สามประสานวิจัยส่งออก
จากการที่เห็นเศษไม้ร่วงจากแผ่นพาร์ทิเคิลบอร์ดที่ถูกสุนัขแทะ ได้จุดประกายแนวคิด
อ่านแล้ว: 6650
ผู้ส่งออกฟันกำไรยาง กดราคาซื้อตุนสต๊อก
ยางแผ่นดิบเหลือ 42 บาท. ตํ่าสุดรอบ 1 ปี 3 เดือน ฝนชุกรีดได้ไม่ถึง 18 วันต่อเดือน แฉผู้ส่งออกกดซื้อตุนสต๊อก หวังฟันกำไร
อ่านแล้ว: 7051
หมวด ยางพารา ทั้งหมด >>