เจาะไส้ในค้าชายแดนเขต ศก.พิเศษเริ่มเปลี่ยนทิศ ด่าน "สะเดา-ปาดังเบซาร์" มึนพิษยางราคาดิ่ง ส่งออกวูบขาดดุลการค้าหมื่นล้าน ด่านแม่สอดโตสุด ได้อานิสงส์เศรษฐกิจเมียนมาร์บูม ขณะที่ด่านมุกดาหารหัวทิ่ม ส่งออกลด 20% แห่ซบด่านนครพนม
รัฐบาลยังคงเดินหน้าปลุกปั้นเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) เฟสแรก 5 จังหวัด คือ ตาก สระแก้ว มุกดาหาร สงขลา และตราด เพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและในประเทศ กระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นประตูการค้าสู่อาเซียน เพราะมีมูลค่าการส่งออกในอันดับต้น ๆ ของประเทศ และในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 นี้ พบว่ามูลค่าการค้าชายแดนยังคงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะด่านแม่สอดที่เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเกือบ 1 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ด่านศุลกากรที่ติดกับประเทศกัมพูชา เช่น ด่านคลองใหญ่ จังหวัดตราด เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงคือการส่งออกน้ำตาลลดลง เพราะในฝั่งกัมพูชามีโรงงานน้ำตาล สามารถผลิตทดแทนได้บางส่วนแล้ว ส่วนด่านมุกดาหารพบว่าการส่งออกลดลง 20% เพราะเอกชนรายใหญ่ย้ายไปส่งออกสินค้าที่ด่านนครพนมแทน เพราะสามารถส่งออกไปถึงเวียดนามและจีนด้วย
นายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ นายด่านศุลกากรแม่สอด จังหวัดตาก เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า มูลค่าการค้าชายแดนผ่านด่านศุลกากรแม่สอดในช่วง 6 เดือนแรกปีงบประมาณ 2558 มีมูลค่ารวม 61,660 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,430 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2557 ที่มีมูลค่า 52,230 ล้านบาท สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ โทรศัพท์พร้อมอุปกรณ์ ซึ่งขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือเบียร์ น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล และผ้าพิมพ์ฝ้าย
ปัจจัยบวกที่ทำให้การส่งออกเติบโตคือภาคการบริโภคและกำลังซื้อที่ดีจากฝั่งเมียนมาร์ ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรสูงขึ้น เศรษฐกิจขยายตัวต่อเนื่องหลังเปิดประเทศ และภาวะเงินเฟ้อที่ลดลง ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรยังอยู่ในเกณฑ์ดี ซึ่งธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งยังนำเข้าสินค้าจากไทย
นอกจากนั้นยังพบว่าเมียนมาร์นำเข้าสินค้าจากไทยและส่งออกไปยังประเทศที่ 3 มากขึ้น เช่น ส่งออกไปอินเดีย ส่งผลดีต่อการค้าชายแดนของไทย คาดว่าสิ้นปีงบประมาณ 2558 ด่านแม่สอดจะมีมูลค่าการค้ารวมทั้งสิ้น 1.3 แสนล้านบาท ขณะที่ปีงบประมาณ 2557 มีมูลค่ารวม 1.1 แสนล้านบาท
สำหรับการนำเข้า 6 เดือนแรกปีงบประมาณ 2558 มีมูลค่าเพียง 257 ล้านบาท ลดลงจากปีงบประมาณ 2557 ที่มีมูลค่า 349 ล้านบาท สาเหตุที่การนำเข้าลดลงเพราะสินค้าเกษตรบางชนิดไทยสามารถผลิตได้เอง เช่น ข้าวโพด พืชตระกูลถั่ว เป็นต้น
ด้านนายวิศวะ ปิติสุขสมบัติ นายด่านศุลกากรคลองใหญ่ จังหวัดตราด เปิดเผยกรณีเดียวกันนี้ว่า ด่านศุลกากรคลองใหญ่มีมูลค่าการค้ารวม 16,116 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,472 ล้านบาท เมื่อเทียบกับครึ่งปีแรกของปีงบประมาณ 2557 ที่มีมูลค่า 13,644 ล้านบาท ซึ่งเป็นการขยับตามเทรนด์ โดยเฉพาะไทยที่กำลังพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ และกัมพูชาที่มีนิคมอุตสาหกรรม ทำให้มีกำลังซื้อมากขึ้น คาดว่าเมื่อถึงช่วงสิ้นปีจะมีมูลค่าราว 3 หมื่นล้านบาท
สินค้าที่ส่งออกอันดับ 1 คือเครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำหวานต่าง ๆ ส่วนสินค้าส่งออกอันดับ 1 ในปีที่ผ่านมาคือน้ำตาลทราย แต่ปีนี้ขยับลงมาอยู่อันดับ 3 เนื่องจากฝั่งกัมพูชามีการปลูกอ้อยและตั้งโรงงาน จึงลดการนำเข้าจากฝั่งไทย
ขณะที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีมูลค่าการค้ารวม 29,858 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว 8,930 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่แล้วมีมูลค่ารวม 20,988 ล้านบาท
ด้านนายกำธร เจริญสุข ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากรมุกดาหาร กล่าวว่า มูลค่าการค้าครึ่งปีแรกปีงบประมาณ 2558 รวม 4,976 ล้านบาท ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่มีมูลค่า 5,700 ล้านบาท เนื่องจากกลุ่มบริษัทซีเกทย้ายฐานการส่งออกไปยังด่านศุลกากรนครพนมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 ส่งผลให้มูลค่าการส่งออกในช่วงครึ่งปีแรกลดลง 20%
ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 2,595 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีมูลค่า 2,380 ล้านบาท โดยมีสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นจากประเทศจีน เช่น เสื้อผ้า อะไหล่รถยนต์ เครื่องประดับ ซึ่งยังคงมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกเดือน และคาดว่าหากก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 จังหวัดบึงกาฬแล้วเสร็จ ก็อาจมีบางอุตสาหกรรมที่ย้ายฐานการส่งออกไปที่ด่านบึงกาฬด้วย
นายสัญญารักษ์ สินสกุล พาณิชย์จังหวัดสงขลา กล่าวว่า มูลค่าการค้าชายแดนของด่านศุลกากรสะเดาและปาดังเบซาร์เริ่มขาดดุลมาตั้งแต่ปี 2557 เนื่องจากมูลค่าของยางพาราซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของทั้ง 2 ด่านลดลง ขณะที่ปริมาณการส่งออกยางก็ลดลงเล็กน้อยเช่นกัน เนื่องจากความต้องการของมาเลเซียลดลง คาดว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2558 มูลค่าการค้าของทั้ง 2 ด่านจะขาดดุลเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาเศรษฐกิจค่อนข้างซบเซา
ด้านนายธวัชชัย บุญศิริ นักวิชาการศุลกากร ด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ จังหวัดสงขลา กล่าวว่า ที่ผ่านมามูลค่าการค้าชายแดนผ่านด่านศุลกากรสะเดา และด่านปาดังเบซาร์รวมกันปีละกว่า 5 แสนล้านบาท สินค้าหลักที่ส่งออกคือผลิตภัณฑ์จากยางพารา ไม้ยางพาราแปรรูป และถุงมือยาง แต่ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากราคายางพาราที่ตกต่ำ ซึ่งในช่วง 6 เดือนแรกปีงบประมาณ 2558 ด่านปาดังเบซาร์มีมูลค่าการค้ารวม 72,926 ล้านบาท ลดลง 6,636 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีมูลค่า 78,562 ล้านบาท ซึ่งสินค้ายางพารายังคงส่งออกเป็นอันดับ 1
ขณะที่ข้อมูลจากด่านศุลกากรสะเดารายงานว่า ในช่วง 6 เดือนแรกปีงบประมาณ 2558 มีมูลค่าการค้ารวม 162,828 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าส่งออก 75,526 ล้านบาท นำเข้า 87,302 ล้านบาท (ขาดดุลการค้า 11,776 ล้านบาท) โดยสินค้าส่งออกหลัก คือยางธรรมชาติ ส่วนประกอบและอุปกรณ์ใช้กับเครื่องจักร และอุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับโทรศัพท์ และเครื่องโทรศัพท์ ซึ่งมูลค่าส่งออกสินค้ายางพาราผ่านด่านสะเดามีมูลค่ารวม 17,104 ล้านบาท
จาก prachachat.net