ซีรูเลียม พืชคลุมในสวนยางพารา

ซีรูเลียม พืชคลุมในสวนยางพารา

วัชพืช เป็นปัญหาสำคัญอย่างหนึ่งของเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา โดยเฉพาะสวนยางปลูกใหม่ เกษตรกรต้องเสียค่าใช้จ่ายในการควบคุมและกำจัดวัชพืชในสวนยางค่อนข้างสูง ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น สถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตรได้มีทางออกสำหรับเกษตรกรโดยแนะนำให้ปลูกพืชคลุม “ซีรูเลียม” ในสวนยาง นอกจากจะสามารถควบคุมวัชพืชได้ดีแล้ว ยังช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน และช่วยลดการใช้สารเคมีกำจัดวัชพืชและสามารถประหยัดค่าปุ๋ยเคมีได้

นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ รองอธิบดี กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ซีรูเลียม (Calopogonium caeruleum) เป็นพืชคลุมดินตระกูลถั่วที่นำเข้ามาทดลองในไทยตั้งแต่ปี 2519 พืชชนิดนี้สามารถขึ้นได้ทั่วทุกภาคของประเทศ สถาบันวิจัยยางได้แนะนำให้ชาวสวนยางปลูกพืชคลุม ซีรูเลียม ในระหว่างแถวต้นยางพารา เนื่องจากมีคุณสมบัติเด่นในการรักษาความชื้นในดินได้ดี ทั้งยังเจริญเติบโตดีแม้ในสภาพร่มเงา และสามารถเพิ่มธาตุอาหารสำคัญให้แก่ดินโดยเฉพาะธาตุไนโตรเจนที่ได้จากการตรึงไนโตรเจนของจุลินทรีย์ดินไรโซเบียมบริเวณปมของราก ซึ่งการปลูก ซีรูเลียม ในสวนยางจึงเป็นแนวทางหนึ่งที่สามารถเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินในสวนยางได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จากการศึกษาการปลูกพืชคลุม ซีรูเลียม ในสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน ระยะเวลา 5 ปี พบว่า การปลูก ซีรูเลียม อย่างเดียวมีปริมาณอินทรียวัตถุจากเศษซากพืชคลุมสูงถึง 3.48 ตัน และมีปริมาณธาตุอาหารที่คืนให้แก่ดิน ได้แก่ ไนโตรเจน 81 กิโลกรัมต่อไร่ ฟอสฟอรัส 5.9 กิโลกรัมต่อไร่ โพแทสเซียม 24.8 กิโลกรัมต่อไร่ แมกนีเซียม 8.6 กิโลกรัมต่อไร่ และแคลเซียม 63.6 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีลงได้ระดับหนึ่ง

อีกทั้งยังพบว่า พืชคลุม ซีรูเลียม ยังสามารถควบคุมวัชพืชได้ดี เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่จะคลุมดินได้หนาแน่นจนวัชพืชอื่นไม่สามารถเจริญเติบโตได้ สามารถลดค่าใช้จ่ายในการกำจัดวัชพืชได้ค่อนข้างมาก ขณะเดียวกัน ซีรูเลียม ยังมีระบบรากฝอยหนาแน่น ช่วยยึดอนุภาคและโครงสร้างของดินได้ดี ทำให้ช่วยป้องกันการชะล้างและพังทลายของหน้าดินได้ดีขึ้น นอกจากนั้น พืชคลุม ซีรูเลียม ยังมีอายุยืนและทนทานต่อสภาพแล้งได้ดี ขณะที่พืชคลุมทั่วไปไม่ทนทานต่อสภาพแห้งแล้ง จะแห้งตายในฤดูร้อนและซากพืชคลุมอาจเป็นเชื้อเพลิงก่อให้เกิดไฟไหม้ได้ และเมื่อต้นยางพาราเจริญเติบโตมีร่มเงาคลุมระหว่างแถวต้นยาง พืชคลุมอื่นมักจะตายหรือเจริญเติบโตได้ไม่ดี แต่ ซีรูเลียม ยังคงสามารถเจริญเติบโตและควบคุมวัชพืชได้ดีในสภาพร่มเงา

นายสุพจน์ หมื่นวณิชกูล นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี กรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันเกษตรกรให้ความสนใจที่จะใช้ ซีรูเลียม เป็นพืชคลุมในสวนยางเพิ่มมากขึ้น แต่เมล็ดพันธุ์ ซีรูเลียม ยังไม่เพียงพอกับความต้องการ ทำให้มีราคาแพง โดยมีการซื้อขายราคากิโลกรัมละ 500-800 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากการผลิตเมล็ดพันธุ์ ซีรูเลียม ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะการออกดอกและติดเมล็ดของ ซีรูเลียม ต้องอาศัยช่วงแสงและสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสม คือ มีอากาศหนาวช่วงหนึ่ง โดย ซีรูเลียม จะเริ่มติดดอกในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน และต้องมีความชื้นที่เหมาะสมจึงจะติดเมล็ด ซึ่งเหมาะที่จะปลูกในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ

ทางสถาบันวิจัยยางได้จัดทำโครงการผลิตเมล็ดพันธุ์ ซีรูเลียม โดยสนับสนุนงบประมาณให้ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบล ราชธานีดำเนินการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับข้อจำกัดของการผลิตเมล็ดพันธุ์ และทำการผลิตเมล็ดพันธุ์ ซีรูเลียม ให้เพียงพอกับความต้องการ ขณะนี้สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ ซีรูเลียม ได้ ประมาณ 40-50 กิโลกรัมต่อไร่ จำหน่ายให้กับเกษตรกรตามอัตราที่กรมวิชาการเกษตรกำหนด 430 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งยังมีการแจกจ่ายเมล็ดพันธุ์พร้อมจัดอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ ซีรูเลียม ให้แก่เกษตรกรที่สนใจทำแปลงผลิตเมล็ดพันธุ์ ซีรูเลียม เพื่อขยายการผลิตเมล็ดพันธุ์รองรับความต้องการของเกษตรกร เป็นช่องทางสร้างรายได้จากการจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ ซีรูเลียม ได้ รวมถึงการส่งเสริมให้ปลูกพืชคลุม ซีรูเลียม ในระหว่างแถวต้นยางด้วย

นอกจากนี้ยังกระจายเมล็ดพันธุ์ ซีรูเลียม ให้กับหน่วยงานในสังกัดกรมวิชาการเกษตรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ อาทิ จังหวัดร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ มุกดาหาร เลย สกลนคร หนองคาย เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ และลำปาง เพื่อขยายพันธุ์และเพิ่มปริมาณการผลิตเมล็ดพันธุ์ ซีรูเลียม มากขึ้น ซึ่งเป็นแนวทางที่จะช่วยให้ราคาเมล็ดพันธุ์ถูกลง และเกษตรกรหันมาใช้พืชคลุม ซีรูเลียม อย่างแพร่หลาย ซึ่งจะช่วยลดปริมาณการนำเข้าสารเคมีกำจัดวัชพืชได้ค่อนข้างมาก

หากสนใจเกี่ยวกับการปลูกพืชคลุม ซีรูเลียม ในสวนยาง หรือถ้าต้องการเมล็ดพันธุ์ ซีรูเลียม สามารถติดต่อได้ที่ ศูนย์วิจัยพืชไร่อุบลราชธานี โทร. 0-4520-2187 หรือสถาบันวิจัยยาง กรมวิชาการเกษตร โทร. 0-2579-1576, 0-2579-3667.

จาก dailynews.co.th

ส่งความคิดเห็น