เพลี้ยแป้งสีชมพูระบาดหนัก สร้างความเสียหายให้แก่ไร่มันสำปะหลังใน 2 อำเภอ เสียหายเป็นวงกว้าง ขณะที่เกษตรจังหวัดลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ โดยปล่อยแตนเบียน และแมลงช้างปีกใส ควบคุมเพลี้ยแป้งไม่ให้ระบาด
วันนี้ (11 พ.ค.) นายธนัท จันทร์เกตุ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนายการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี และนายชำนาญ บัวเฟื่อง เกษตรอำเภอโป่งน้ำร้อน ได้รับเรื่องจาก นางสมโพ นพกิจ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ 6 บ้านแปลง ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง เนื้อที่กว่า 36 ไร่ ว่า ขณะนี้ไร่มันสำปะหลังที่ปลูกไว้ได้เกิดโรคเพลี้ยแป้งสีชมพูระบาดหนัก กัดกินใบ และยืนต้นตายเสียหายเป็นวงกว้าง
เบื้องต้น ทางเกษตรกรผู้ปลูกมันได้มีการใช้ยาฆ่าแมลงเข้าฉีดพ่นแต่ก็ไม่สามารถยับยั้งได้ ไม่นานเพลี้ยแป้งสีชมพูก็กับมาระบาดหนักอีก ขอให้ทางเกษตรจังหวัดจันทบุรี และเกษตรอำเภอโป่งน้ำร้อน ได้ลงพื้นที่มาให้คำแนะนำ และให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังด้วย
หลังรับแจ้ง นายธนัท จันทร์เกตุ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี และนายชำนาญ บัวเฟื่อง เกษตรอำเภอโป่งน้ำร้อน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่นักวิชาการ ได้ลงพื้นที่พบ นางสมโพ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังยืนคอยเจ้าหน้าที่อยู่ จากนั้น นางสมโพ ได้พาเจ้าหน้าที่ไปดูร่องรอยของโรคเพลี้ยแป้งสีชมพูระบาดในไร่มันสำปะหลัง พบความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งในพื้นที่ อ.โป่งน้ำร้อน และ อ.สอยดาว
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการนำศัตรูธรรมชาติ เช่น แตนเบียน และแมลงช้างปีกใส มอบให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในการนำไปปล่อยในไร่มันสำปะหลัง เพื่อเป็นการควบคุม และลดปริมาณเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีชมพูที่ระบาดหนักอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้ ภายใน 3 เดือนศัตรูธรรมชาติเหล่านี้จะเข้าไปทำลายเพลี้ยแป้งสีชมพูให้หมดไปจากไร่มันสำปะหลังของเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป
นางสมโพ นพกิจ เกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากเพลี้ยแป้งสีชมพูระบาดหนักในไร่มันสำปะหลัง กล่าวว่า จากสภาพอากาศที่ร้อน และแห้งแล้งทำให้เกิดโรคเพลี้ยแป้งสีชมพูระบาดหนัก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ หรือให้คำแนะนำกับเกษตรกร หากปล่อยไว้อาจจะเกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น
นายธนัท จันทร์เกตุ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า สำหรับในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี มีการปลูกไร่มันสำปะหลังอยู่ที่ 280,000 ไร่ ในปี 2558 มีพื้นที่ที่ปลูกมันสำปะหลังหลักมีอยู่ 2 อำเภอ คือ อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว เนื่องจากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ได้มีการระบาดของเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีชมพู ทำให้มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต ทางกรมส่งเสริมการเกษตร ได้เห็นความสำคัญ และความเดือดร้อนของเกษตรกรในพื้นที่ 2 อำเภอ จึงได้ลงพื้นที่มาให้การข้อแนะนำและให้การช่วยเหลือ โดยการนำศัตรูธรรมชาติมาปล่อย ซึ่งในวันนี้ได้มีการนำศัตรูธรรมชาติมาปล่อย 2 ชนิด คือ แตนเบียน และแมลงช้างปีกใส ซึ่งศัตรูธรรมชาติทั้ง 2 ตัวนี้ จะทำหน้าที่เป็นตัวที่จะเข้าไปทำลายเพลี้ยแป้งมันสำปะหลังสีชมพู
จาก manager.co.th