data-ad-format="autorelaxed">
ผักไฮโดรโปนิกส์ที่ปลูกจะใช้ระยะเวลา 45 วัน ก็ทยอยเก็บผลผลิตขาย ขายเป็นต้นราคาต้นละ 30 บาท 1 อาทิตย์ สามารถเก็บผลผลิตได้ 600 ต้น รายได้ต่อเดือนจากการขายผัก เฉลี่ยเดือนละกว่า 7 หมื่นบาท
ปัจจุบันผักที่ปลูกด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์ กำลังได้รับความนิยมจากผู้บริโภคอย่างแพร่หลาย ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่รักสุขภาพ เพราะนอกจากรสชาติที่อร่อยแล้ว ยังสด ปลอดภัย ไร้สารพิษ เลยกลายเป็นเกษตรทางเลือกใหม่ของเกษตรกรที่หันมาปลุกผักไฮโดรโปนิกส์แทนการปลุกพืชเกษตรชนิดอื่นเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน ดังนั้นวันนี้วันนี้ “อบต.กบ” พร้อมด้วย พี่สุชานรี ดิษยาวรโชติคีรี นักข่าวเดลินิวส์แห่งจ.แม่ฮ่องสอน จะพาแฟนๆ ไปลุยกันที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อไปสัมผัสความคิดของคนรุ่นใหม่ ที่อยากจะสร้างอาชีพให้กับตนเอง และครอบครัว ด้วยหันเหชีวิตมาปลูกผัก น้องฐานันต์ แก้วดิษฐ์ หนุ่มกราฟฟิกคอมพิวเตอร์ วัย 28 ปี ที่หันมาเอาดียึดเกษตรแนวใหม่ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เปิดเผยว่า ตนมีแนวคิดหันมาปลุกผักไฮโดรโปนิกส์ เพราะเป็นคนชอบทานผักและรักสุขภาพ เลยเริ่มต้นลองผิดลองถูกศึกษาการปลูกหลายวิธี เริ่มต้นด้วยเงินลงทุน 100,000 บาท มาทำโรงเรือนและ ซื้อเมล็ดพันธุ์ผักสลัดหลากชนิดปลูกในโรงเรือน กว่า 2,000 ต้น ภายในบริเวณพื้นที่เล็กๆหลังบ้าน และทดลองเพาะเมล็ดพันธุ์เองในเวลาต่อมาซึ่งก็ประสบผลสำเร็จ จนสามารถใช้เมล็ดพันธุ์ที่เพาะเองโดยไม่ต้องไปซื้อเมล็ดพันธุ์จากที่อื่นอีก นอกจากนี้ยังทำปุ๋ยและน้ำหมักจากมูลสัตว์และกากพืช เพื่อใช้ในการบำรุงรักษาผักไฮโดรโปนิกส์ที่ปลูกไว้ ซึ่งช่วยประหยัดและเป็นการลดต้นทุนการเพาะปลุกผักได้มาก
ผักที่ปลูกจะใช้ระยะเวลา 45 วัน ก็ทยอยเก็บผลผลิตขาย ราคาขาย จะขายเป็นต้น ราคาต้นละ 30 บาท 1 อาทิตย์ สามารถเก็บผลผลิตได้ 600 ต้น รายได้ต่อเดือนจากการขายผักไฮโดรโปนิกส์ เฉลี่ยเดือนละกว่า 7 หมื่นบาท สำหรับตลาดที่รับซื้อซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าประจำในอำเภอปาย ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าจาก รีสอร์ท โรงแรม และชาวต่างชาติที่มาอาศัยอยู่ในปาย ซึ่งรักสุขภาพ และชอบบริโภคผักปลอดสารพิษ จะเข้ามาซื้อเป็นประจำถึงที่ น้องฐานันต์ เผยอีกว่า การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ คือ การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน ตัวรากจะยึดอยู่กับแผ่นฟองน้ำ ที่วางอยู่ในรางปลูก หรือแผ่นโฟมขนาดใหญ่ พืชจะเติบโตด้วยการรับธาตุอาหารจากสารละลายธาตุอาหาร ผ่านการจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ และสามารถหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ใหม่ได้ บนโต๊ะปลูกมีหลังคากันฝน สามารถควบคุมปริมาณแสงแดด และควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือนให้พอเหมาะ และช่วยป้องกันศัตรูพืชได้เป็นอย่างดี แถมยังมีผลผลิตออกสู่ตลาดได้ทั้งปีอีกด้วย การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ถือ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับเกษตรกรยุคใหม่ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ เพราะปลอดภัยต่อผู้ปลูก ผู้ปริโภค และยังได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี
คอลัมน์ : ส่องท้องถิ่น โดย อบต.กบ ( [email protected] )
ข้อมูลจาก : dailynews.co.th