ปลูกมะระพันธุ์เบอร์ 16 ร่วมกับ แฟงพันธุ์ปิ่นเพชร เพื่อให้ใบแฟงที่มีขนาดใหญ่กว่ามาคลุมผลมะระทำให้ผลของมะระสวยขึ้น โดยไม่ต้องห่อลูกมะระ ซึ่งทั้งสองพันธุ์ได้ผลผลิตดีและตลาดต้องการ เก็บขายได้ครั้งละกว่า 15,000 บาท ถึง 30,000 บาท สร้างรายได้ดี กำไรครั้งละกว่าสามแสนบาท ดีกว่าปลูกพืชอย่างอื่น
ปลูกมะระเสริมแฟงสร้างรายได้ หวั่นน้ำแล้งทำให้ผลผลิตเสียหาย
วันที่ 2 ม.ค. 58 นายสมบัติ บุญยั่นซื่อ อายุ 57 ปี เกษตรกรชาวสวนปลูกมะระ อยู่บ้านเลขที่ 18/3 หมู่2 ต.ศาลาครุ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ได้ปลูกมะระร่วมกับเสริมการปลูกแฟงในร่องสวน บนพื้นที่ 10 ไร่ ขณะนี้พืชผักได้ราคาดี แต่น้ำในลำคลองเริ่มแห้งขอดเกรงว่าจะไม่มีน้ำรดพืชในสวนจะทำให้เสียหายหนัก
 |
| มะระเบอร์ 16 และ แฟงปิ่นเพชร |
นายสมบัติ บุญยั่นซื่อ กล่าวว่า ตนเองปลูกมะระและปลูกแฟงรวมกันในสวนเดียวกัน ลงทุนไป 80,000 บาท โดยเลือกปลูก มะระพันธุ์เบอร์ 16 และแฟงพันธุ์ปิ่นเพชร สาเหตุที่ปลูกสองชนิดรวมกันเพื่อให้ใบแฟงที่มีขนาดใหญ่กว่ามาคลุมผลมะระทำให้ผลของมะระสวยขึ้น โดยไม่ต้องห่อลูกมะระ ซึ่งทั้งสองพันธุ์ได้ผลผลิตดีและตลาดต้องการ
มะระ ราคาส่ง กิโลละ 22-25 บาท ส่วนแฟง ราคาส่ง กิโลละ 10 บาท เก็บขายได้ครั้งละกว่า 15,000 บาท ถึง 30,000 บาท สามารถเก็บได้ 20 ครั้ง การดูแลรักษาก็เหมือนกันคือ รดน้ำ ใส่ปุ๋ย ฉีดยา ต้องระวังปัญหาเพลี้ยไฟและแมลงวันทองเป็นพิเศษ ซึ่งอาจจะระบาดได้ทุกเมื่อ สามารถสร้างรายได้ดี หักค่าใช้จ่ายในการลงทุนแล้วจะเหลือครั้งละกว่าสามแสนบาท ดีกว่าปลูกพืชอย่างอื่น
จากปัญหาน้ำในคลองเริ่มแห้งขอด กลัวผลผลิตที่ลงทุน และลงมือปลูกไปจะได้รับความเสียหาย เนื่องจากการปลูกมะระและแฟงจำเป็นต้องรดน้ำทุกวัน และต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิด จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ หรือหาแนวทางในการเตรียมการไว้ล่วงหน้าให้แก่ชาวบ้าน และเกษตรกรชาวสวน เพื่อไม่ให้ชาวบ้านและเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนด้วย อยากให้ชลประทานปล่อยน้ำมาให้ชาวเกษตรกรบ้าง หากไม่มีน้ำพืชผลของเกษตรกรต้องเสียหายอย่างแน่นอน ถ้ามีน้ำให้ชาวสวนชาวเกษตรก็สามารถยังเลี้ยงชีพตัวเองต่อไปได้ จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาช่วยเหลือเกษตรกร และชาวบ้านในพื้นที่ช่วงนี้โดยเร่งด่วน.
จาก banmuang.co.th
