data-ad-format="autorelaxed">
โกงโครงการสวนปาล์ม
วันที่ 2 ก.ย.59 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และแกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ตามที่ศาลฎีกามีคำตัดสินให้ผู้บริหารขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) มีความผิด ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ผู้ที่ประมูลได้ โดย ปรส. อนุญาตให้ผู้ประมูลได้นำกองทุนรวมที่จัดตั้งขึ้นใหม่มาเซ็นสัญญา แทนชื่อผู้ที่ประมูลได้จริง ทั้ง ๆ ที่เลยกำหนดวันเซ็นสัญญาไปแล้ว เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียภาษี จากกำไรมหาศาล
ซึ่งรัฐบาลในขณะนั้นได้มีการออกกฎหมายใหม่เพื่ออนุญาตให้ละเว้นภาษีเงินได้ แก่กองทุนรวมเหล่านี้ แต่ขณะนั้นกฎหมายยังออกไม่เสร็จในช่วงที่มีการประมูล จึงมีการอนุญาตให้นำกองทุนรวมที่เพิ่งตั้งใหม่นี้มาเซ็นสัญญาแทนได้ ทั้งที่เลยกำหนดเวลาไปแล้ว ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์อย่างชัดเจน โดยเชื่อได้ว่าน่าจะมีผู้ไดัรับประโยชน์อย่างมหาศาล โดยเฉพาะนักการเมืองในรัฐบาลขณะนั้น
ดังนั้น ในเมื่อศาลฎีกาตัดสินว่า ผู้บริหารของ ปรส. ที่ตั้งโดยรัฐบาลขณะนั้น มีความผิดทำรัฐเสียหาย รัฐบาลที่ออกกฎหมายใหม่ให้เว้นภาษีเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกองทุนรวมเหล่านี้ และอาจจะมีการสั่งให้ ปรส. อนุญาตให้ใช้กองทุนรวมที่ตั้งใหม่นี้เซ็นสัญญาได้ ควรจะมีความผิดด้วยหรือไม่ และอยากให้สืบสวนว่าใครได้ประโยชน์จากการนำซากประเทศที่กำลังย่ำแย่มาขายถูก ๆ และไม่ต้องเสียภาษีในขณะนั้น
ทั้งนี้ ส่วนตัวหวังว่า เศรษฐกิจของประเทศจะไม่กลับไปย่ำแย่แบบนั้นอีก นอกจากนี้ยังอยากให้เร่งดำเนินคดีโครงการสวนปาล์มในประเทศอินโดนิเซียที่มีข้อกล่าวหาว่ามีการทุจริต และเรื่องยังค้างอยู่ที่ ป.ป.ช. รวมถึงอยากให้กระทรวงพลังงานติดตามการเปลี่ยนแปลงทิศทางพลังงานของโลกอย่างใกล้ชิด เพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วมาก และราคาอนาคตอาจจะถูกลง ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพลังงานของทั้งโลก
source: news.mthai.com/hot-news/politics-news/516767.html