data-ad-format="autorelaxed">
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันที่ 17 พ.ย.นี้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอให้พิจารณาการขยายระยะเวลาการระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลออกไปจนถึงปี 2561 จากเดิมกำหนดจะระบายให้แล้วเสร็จภายในปี 2560 เพราะยังมีปัญหาการฟ้องร้องกันในชั้นศาลและศาลได้สั่งให้ระงับการขายข้าวบางส่วนที่เปิดประมูลจนได้ผู้ชนะการประมูลแล้ว โดยเฉพาะข้าวกลุ่ม 2 ที่เป็นข้าวเสื่อมและเข้าสู่อุตสาหกรรมไม่ใช่เพื่อการบริโภคของคน (ทำอาหารสัตว์) และกลุ่ม 3 ข้าวเสื่อมที่เข้าสู่อุตสาหกรรมไม่ใช่เพื่อการบริโภคของคนและสัตว์ (ทำพลังงานทดแทน เอทานอล ปุ๋ย ฯลฯ) รวมกันประมาณ 2.07 ล้านตัน จากทั้งหมด 2.7-2.8 ล้านตัน
นอกจากนี้ รัฐบาลยังต้องตรวจสอบโกดังเก็บข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลอีก 8 แห่ง และอีก 11 จุด ที่เก็บข้าวรัฐ และได้เปิดประมูลเข้าสู่อุตสาหกรรมไปแล้ว แต่เจ้าของโกดังเรียกร้องให้รัฐตรวจสอบ เพราะไม่มั่นใจผลการตรวจสอบข้าวของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากข้าวที่เก็บในโกดังทั้ง 8 แห่ง เจ้าของโกดังอ้างยังมีสภาพดี และสามารถปรับปรุงเพื่อให้คนบริโภคได้ แต่รัฐบาลกลับตีให้เป็นข้าวเสื่อมและเปิดประมูลเข้าสู่อุตสาหกรรม ซึ่งทำให้ผู้ประมูลเสนอราคาซื้อต่ำมาก ทำให้รัฐเสียผลประโยชน์มหาศาล โดยล่าสุดการตรวจสอบโกดังทั้ง 8 แห่งเสร็จสิ้นแล้วแต่ยังเหลืออีก 11 จุด ที่ยังตรวจสอบไม่เสร็จสิ้น
สำหรับข้าวดีสำหรับคนบริโภคในสต๊อกรัฐบาลที่เหลืออีกประมาณ 5 หมื่นตันนั้นคงต้องชะลอการระบายออกไปก่อนเช่นกัน เพราะขณะนี้ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่ปี 2560/2561 กำลังทยอยออกสู่ท้องตลาด คาดว่าจะมีปริมาณ 28.81 ล้านตัน ลดลง 9.88% จากผลผลิตฤดูกาลก่อน หากเร่งรีบระบายข้าวในสต๊อกในช่วงนี้อาจส่งผลกระทบทางจิตวิทยา และทำให้ราคาข้าวใหม่ลดลงได้ ทั้งนี้ จากสาเหตุดังกล่าวทำให้คาดว่าไม่น่าจะระบายทั้งหมดได้ทันภายในสิ้นปี 2560 จึงจำเป็นต้องขอให้ นบข.พิจารณาเห็นชอบเลื่อนระยะเวลาการระบายออกไปจนถึงปี 2561
อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่รัฐบาลบริหารประเทศเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 สามารถระบายข้าวในสต๊อก ทั้งเพื่อการบริโภคของคนและเข้าสู่อุตสาหกรรมเพื่อเป็นอาหารสัตว์และพลังงานทดแทน รวมแล้วกว่า 14 ล้านตัน ได้เงินเข้ารัฐบาลประมาณ 1.3 แสนล้านบาท ยังเหลือข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่รอการประมูลอีก 7-8 แสนตัน ข้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมที่ประมูลแล้ว แต่ติดปัญหาคดีอีก 2.07 ล้านตัน แต่คาดว่าหากแก้ปัญหาคดีได้แล้ว อาจทำให้เหลือผู้ชนะการประมูลที่จะรับมอบข้าวเพียงส่วนหนึ่งของ 2.07 ล้านตัน ส่วนที่เหลืออาจยกเลิกการซื้อจากรัฐ รวมทั้งเหลือข้าวดีเพื่อการบริโภคอีกประมาณ 5 หมื่นตัน
รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่าสถานการณ์ราคาข้าวส่งข้าว ณ ตลาดกรุงเทพฯ วันที่ 8 พ.ย. 2560 พบว่าราคาข้าวสารขาว 5% อยู่ที่ตันละ 1.14-1.18 หมื่นบาท ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเทียบกับราคาช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาข้าวสารขาว 5% อยู่ที่ตันละ 1.13-1.18 หมื่นบาท ข้าวสารหอมมะลิ 100% ชั้น 2 อยู่ที่ตันละ 2.4-2.5 หมื่นบาท ปรับเพิ่มจาก 2.35-2.5 หมื่นบาท/ตัน ส่วนข้าวเปลือกราคาทรงตัว โดยราคาข้าวเปลือกเจ้า 5% (ความชื้น 15%) จ.พระนครศรีอยุธยา อยู่ที่ตันละ 7,500 บาท
source: posttoday.com/biz/gov/524553