data-ad-format="autorelaxed">
นายสุวัฒน์ เจียระคงมั่น รองอธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า รัฐบาลพยายามส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตข้าวคุณภาพดีเพื่อยกระดับราคาให้สูงขึ้น ซึ่งขณะนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ทำโครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP โดยจับคู่ผู้ประกอบการ โรงสี กับกลุ่มชาวนาผู้ผลิตข้าวอินทรีย์จากโครงการส่งเสริมข้าวอินทรีย์ (1 ล้านไร่) และข้าว GAP จากโครงการระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่) เพื่อให้มีตลาดรองรับแน่นอน และได้ราคาขายตามคุณภาพสูงกว่าท้องตลาดอัตรา 4% อาทิ ข้าวหอมมะลิขายได้ราคาสูงกว่าตลาดเฉลี่ยตันละ 500 บาท โดยภาครัฐสนับสนุนชดเชยดอกเบี้ย 3% ให้กับผู้ประกอบการที่กู้เงินธนาคารมารับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรในโครงการ พร้อมกันนี้ หากผู้ส่งออกที่สนใจเข้าร่วมโครงการข้าวอินทรีย์ จะได้รับการจัดสรรโควตาส่งออกข้าวไปอียูตามสัดส่วนที่กำหนด โดยปีนี้กำหนดแผนการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์ จำนวน 60,000 ตัน และข้าว GAP จำนวน 100,000 ตัน และจะขยับเป้าหมายเพิ่มขึ้นทุกปี
นายสุวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการข้าวพยายามผลักดันให้กลุ่มนาแปลงใหญ่ทั้งหมดได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP เพื่อยกระดับคุณภาพและราคา แต่การเข้าสู่ระบบมาตรฐานต้องปฏิบัติตามขั้นตอนอย่างเคร่งครัด ซึ่งปีแรกที่เข้าร่วมโครงการนาแปลงใหญ่นั้นเกษตรกรจะได้รับการเตรียม
ความพร้อมและปรับเปลี่ยน พัฒนาไปสู่ระบบการผลิตให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยมีเจ้าหน้าที่กรมการข้าวให้คำแนะนำ ตรวจประเมินและให้การรับรองมาตรฐาน GAP ได้ในที่สุด ทั้งนี้ ตามแผน 5 ปีข้างหน้า จะมีนาแปลงใหญ่ทั้งหมด 18,800 แปลง คิดเป็นพื้นที่ประมาณ 20 ล้านไร่ หรือคิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของพื้นที่นาทั้งประเทศ ซึ่งนาแปลงใหญ่เหล่านี้จะต้องเป็นแปลง GAP ทั้งหมดด้วย เพื่อสร้างความปลอดภัยต่อตัวเกษตรกร และที่สำคัญสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค สำหรับเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมโครงการนาแปลงใหญ่ เพียงรวมกลุ่มกันมากกว่า 30 คนขึ้นไป พื้นที่รวมกันมากกว่า 300 ไร่ สมัครได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ ศูนย์วิจัยข้าว หรือที่กรมการข้าว หรือโทรศัพท์สายด่วน หมอข้าว 1170 กด 4
สอบถามได้ทุกเรื่องเกี่ยวกับข้าวได้ในวันเวลาราชการ
source: naewna.com/local/297294