พาณิชย์ดันตั้งตลาดกลางข้าวสาร ดร.สมคิด ขอจีนเพิ่มโควตานำเข้า

จีนสนนำเข้าข้าวไทยเพิ่มหลังรัฐปล่อยตามกลไกตลาดราคาแข่งขันได้ ก.พาณิชย์มอบการบ้าน 4 ผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่จีนเป็นแม่งานจัดตั้งชมรมคุมเข้มปัญหาปลอมปนข้าวไทยทำเสียชื่อ หลังปีใหม่ดึงเยือนเจรจาซื้อขาย “สมคิด”เจรจาจีนขอโควตาเอกชนเพิ่ม “อภิรดี” ปิ๊งไอเดียเตรียมดันตั้งตลาดกลางค้าข้าวสารในประเทศ

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์(พณ.) เปิดเผยระหว่างการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน( 7-12 ธ.ค.59)ว่า ภารกิจส่วนหนึ่งได้มีการประชุมร่วมกับผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ 4 รายของเมืองกวางโจว ทั้งนี้ทางเอกชนจีนระบุที่ผ่านมามีการนำเข้าข้าวจากไทยลดลงจากการแทรกแซงราคาของรัฐบาลก่อนหน้า ทำให้ข้าวไทยมีราคาสูง แต่ปัจจุบันข้าวไทยมีราคาลดลงจากปล่อยตามกลไกตลาด ดังนั้นทางเอกชนจีน จึงได้เสนอใน 2 ประเด็นคือ

1.ให้รัฐบาลไทยคงนโยบายไว้เช่นนี้ต่อไป (ปล่อยตามกลไกตลาด) เพราะทำให้ข้าวไทยแข่งขันในตลาดได้ดีขึ้น และจะส่งผลให้ทางจีนมีการนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นในปีหน้า

2. เอกชนจีนอยากให้ไทยมีการคุมเข้มคุณภาพข้าว(ข้าวหอมมะลิที่มีปัญหาการปลอมปนในจีน) เรื่องนี้ทางไทยไม่สามารถคุมปัญหาปลายทางได้ จึงเสนอให้กลุ่มเอกชนจีนรวมตัวกันตั้งเป็นชมรมเพื่อตรวจสอบและควบคุมคุณภาพข้าวในกลุ่มสมาชิกกันเอง ซึ่งทางผู้เข้าร่วมประชุมเห็นด้วยจะไปจัดตั้ง

นางอภิรดีเผยอีกว่า จากที่ได้เยี่ยมชมตลาดค้าส่งธัญพืชซานเหยียนเฉียวของจีนที่เมืองกวางโจวได้จุดประกายให้มีแนวคิดที่จะจัดตั้งตลาดกลางค้าข้าวสารขึ้นในไทยโดยจะให้องค์การคลังสินค้า(อคส.)เป็นผู้บริหารจัดการตลาด ในเร็วๆ นี้จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องอาทิ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย สมาคมค้าข้าวไทย(หยง)มาหารือเพื่อระดมสมองต่อไป

ขณะที่นายสมพล เกียรติไพบูลย์ ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยว่า หลังจากผู้นำเข้าจีนตั้งชมรมแล้ว จะเชิญมาจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับผู้ส่งออกไทย เพื่อทำสัตยาบันร่วมกัน อาทิ 1.ไม่ผสมข้าวหอมมะลิไทยกับข้าวชนิดอื่น จนทำให้ข้าวไทยเสียชื่อเสียง 2.ไม่ขายแข่งตัดราคาข้าว เป็นต้น ซึ่งทางผู้นำเข้าอยากจะเข้ามาดูกระบวนการผลิต และเจรจาซื้อขายกับผู้ส่งออกรวมถึงโรงสีของไทย คาดจะเดินทางมาต้นปีหน้า

“ด้านรัฐบาลโดยท่านรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กำลังเร่งเจรจาขอเพิ่มโควตาการนำเข้าข้าวจากรัฐบาลจีนให้กับภาคเอกชนจีนเพิ่ม คาดจะมีความคืบหน้าและส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมข้าวไทยในอนาคต”

อนึ่ง สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว รายงานว่า ในปี 2560 คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีนได้ประกาศระเบียบการรับสมัครโควตาธัญพืช นำเข้าข้าว 5.32 ล้านตัน แบ่งเป็นข้าวเมล็ดยาว 2.66 ล้านตัน และข้าวเมล็ดกลาง/สั้น 2.66 ล้านตัน ภาษีการนำเข้าภายในโควตา 1% นอกโควตา 65% นอกจากนี้ยังมีภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 13% ซึ่งกำหนดโควตาเท่ากับปี 2559 โดยจัดโควตาให้รัฐวิสาหกิจเป็นสัดส่วน 50% ของโควตาทั้งหมด ที่เหลือนำเข้าโดยเอกชน

source: thansettakij.com/2016/12/16/119884

ส่งความคิดเห็น