data-ad-format="autorelaxed">
บิ๊กส่งออกข้าวฟันธงปีนี้ไทยส่งออกข้าวทะลุเป้าหมาย 9.5 ล้านตันหรือมากกว่า “เอเซียฯ-นครหลวง-ธนสรรไรซ์” ผู้นำ 3 อันดับแรก โชว์ยอด 9-10 เดือนโตต่อเนื่อง ขณะ 3 เดือนสุดท้ายออร์เดอร์ต่างประเทศทะลักเข้าไทย หลังราคาข้าวใกล้เคียงเวียดนาม-อินเดีย ซื้อง่าย-ขายคล่องขึ้น ด้านโรงสีชะลอขายให้ผู้ส่งออกหลังราคาเริ่มขยับ
นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ ประธานบริษัท เอเซีย โกลเด้นไรซ์ จำกัด(บจก.)ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของประเทศ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ในปีนี้ค่อนข้างมีความมั่นใจว่าการส่งออกข้าวในภาพรวมของประเทศไทยจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์และสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยตั้งเป้าไว้ที่ 9.5 ล้านตัน หรืออาจจะมากกว่าเป้าหมาย ซึ่งจากที่อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศออกมาระบุตั้งแต่1 มกราคม – 2 พฤศจิกายน 2559 ไทยส่งออกข้าวได้แล้วกว่า 8.4 ล้านตัน ขณะที่ในช่วง 2-3 เดือนสุดท้ายปีนี้คาดการส่งออกข้าวของไทยจะทำได้ในระดับเกิน 7 แสนตัน/เดือนดังนั้นเป้าข้างต้นน่าจะทำได้
ทั้งนี้เป็นผลจากระดับราคาข้าวส่งออกของไทยขณะนี้ได้ลดลงมาใกล้เคียงกับคู่แข่งขันในระดับมากกว่ากันไม่ถึง 10 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน(เป็นราคาข้าวขาว 5% เป็นชนิดข้าที่ส่งออกมากที่สุดของไทย) จากอดีตจะห่างกันระดับ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ทำให้เวลานี้ข้าวไทยขายง่ายขึ้น แม้ราคาจะสูงกว่าคู่แข่งขันเล็กน้อย แต่ลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานมากกว่า ส่วนข้าวหอมมะลิข้าวราคาสูงของไทยราคาก็ลดต่ำลงมา โดยมีผู้ส่งออกไปเสนอขายให้ลูกค้า (ราคาเอฟโอบี) ตั้งแต่ระดับ 500 – 620 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ต่ำมากในรอบหลายปีจากผลผลิตข้าวใหม่ของไทยที่เริ่มสู่ตลาดออกมาก และต้องแข่งขันด้านราคากับคู่แข่งขันเพื่อให้ขายสินค้าได้ตามกลไกตลาด
“เวลานี้มีคำสั่งซื้อข้าวหอมมะลิใหม่จากต่างประเทศเข้ามาเป็นจำนวนมากทั้งจากจีน ฮ่องกง สหรัฐฯ ซึ่งจากที่รัฐบาลได้มีโครงการรับจำนำข้าวเปลือกในยุ้งฉางของเกษตรกรเพื่อช่วยลดผลกระทบราคาตกต่ำ ทำให้มีปริมาณข้าวออกสู่ตลาดน้อยลงมีผลให้ราคาข้าวที่ผู้ส่งออกไปเสนอขายในต่างประเทศขยับขึ้นมาอยู่ในระดับ 620 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อดัน และส่งผลให้ราคาข้าวเปลือกในประเทศขยับขึ้นมาเกือบ 1,000 บาท ต่อตันแล้ว ขณะที่เวลานี้โรงสีก็ชะลอการขายข้าวสารให้ผู้ส่งออกจากเก็งกำไรว่าราคาจะขึ้นไปอีก”
สำหรับเอเซียโกลเด้นไรซ์ในปีที่ผ่านมาส่งออกข้าวได้ราว 1.5 ล้านตัน เป็นอันดับ 1 ของประเทศ คาดปีนี้ในแง่ปริมาณส่งออกจะอยู่ระดับใกล้เคียงกัน แต่แง่มูลค่าคาดจะลดลง จากราคาข้าวส่งออกในปีนี้ลดลงจากปีที่แล้วโดยเฉลี่ย 15%
ด้านนายวัลลภ พิชญ์พงศา รองกรรมการผู้จัดการ บจก.นครหลวงค้าข้าว ในเครือเอสทีซี ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 2 ของประเทศในปีที่ผ่านมา กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าส่งออกข้าวในปีนี้ปริมาณ 1.2 ล้านตัน โดย 9 เดือนแรกส่งออกไปแล้วราว 1 ล้านตัน เชื่อว่าทั้งปีน่าจะส่งออกได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ มีปัจจัยบวกจากสถานการณ์ราคาข้าวหอมมะลิในช่วงนี้ลดลง ทำให้ส่งออกได้เพิ่มขึ้น ส่วนปี2560 เบื้องต้นบริษัทยังคงเป้าส่งออกไว้ที่ 1.2 ล้านตัน
ขณะที่นายศุภชัย วรอภิญญาภรณ์ ประธานกรรมการ บจก.ธนสรรไรซ์ ผู้ส่งออกข้าวมาแรง และครองอันดับ 3 ของผู้ส่งออกในปีที่ผ่านมาด้วยปริมาณส่งออก 7.8 แสนตัน กล่าวว่า คาดปีนี้บริษัทจะยังครองอันดับ 3 ของบริษัทส่งออกข้าว โดยยอดถึงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาสามารถส่งออกได้แล้ว 8 แสนกว่าตัน ทั้งปีนี้น่าจะส่งออกได้ระดับ 8-9 แสนตัน โดยสัดส่วน 40-50% เป็นการส่งออกข้าวนึ่ง รองลงมาเป็นข้าวขาวสัดส่วน 30% ข้าวหอมมะลิ 10-15% ที่เหลือเป็นปลายข้าวและข้าวชนิดอื่นๆ
“การส่งออกข้าวไทยในภาพรวมปีนี้เป้าหมายที่ 9.5 ล้านตันน่าจะทำได้ เพราะลูกค้าปลายปีเวลานี้เข้ามาซื้อเยอะ และราคาข้าวไทยก็ถูกลง โดยข้าวหอมมะลิเฉลี่ยที่ระดับ 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต้นๆ ต่อตันเป็นผลจากผลผลิตข้าวโลกที่เพิ่มขึ้น และภาวะราคาตลาดโลกที่ลดลง จากปี 2558 ราคาข้าวหอมมะลิส่งออกเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ระดับ 700 ดอลลาร์สหรัฐฯต้นๆ ต่อตัน ช่วงนี้จึงเป็นโอกาสการขายของไทยเพราะผลผลิตข้าวอินเดียจะออกปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า ถึงช่วงนั้นข้าวในตลาดจะมากขึ้น และราคาจะถูกลงอีก”
source: thansettakij.com/2016/11/25/115559