data-ad-format="autorelaxed">
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนขยายการจัดตลาดนัดข้าวเปลือกทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นกว่า 40% ในฤดูการผลิต 2559/60 โดยให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ร่วมกับหน่วยราชการในจังหวัด จัดทำแผนการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559-31 มีนาคม 2560 วัตถุประสงค์ช่วยเกษตรกรให้จำหน่ายข้าวเปลือกได้ราคาสูงขึ้น เนื่องจากการขายผ่านช่องทางปกติบางครั้งอาจจะได้ราคาที่ไม่เป็นธรรม
การจำหน่ายข้าวเปลือกของเกษตรกรที่มีการแข่งขันรับซื้อ จะทำให้เกษตรกรมีช่องทางเลือกในการขายข้าวเปลือกของตนเอง มีอำนาจต่อรองในการขายสินค้าเกษตรมากขึ้น และมีแหล่งกลางในการซื้อขายข้าวเปลือกที่ให้ความเป็นธรรมทางด้านราคา การชั่งน้ำหนัก และการตรวจสอบคุณภาพสินค้าเกษตร นอกจากนี้ เกษตรกรจะได้รับความรู้ไปพัฒนายกระดับการซื้อขายได้อย่างเหมาะสม โดยทราบถึงวิธีการชั่งตวงวัด การตรวจสอบคุณภาพข้าวเปลือก และการปรับปรุงคุณภาพ ตลอดจนมีอำนาจต่อรองราคามากขึ้น และยังสามารถนำไปปรับปรุงคุณภาพข้าวเปลือกให้ได้ตรงกับความต้องการของตลาด
“พาณิชย์จังหวัดเองก็ต้องประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่เพื่อกระจายข้อมูลการจัดตลาดนัดนี้ให้โรงสีหลายๆ แห่งและพ่อค้าทราบ เพื่อเข้าไปแข่งกันรับซื้อ โดยทั่วไปเกษตรกรที่นำข้าวเปลือกมาจำหน่ายที่ตลาดนัดข้าวเปลือกนี้สามารถจำหน่ายข้าวเปลือกได้สูงกว่าราคาตลาดรับซื้อทั่วไปตันละ 100-500 บาท หรือกว่านั้น”
นางอภิรดีกล่าวว่า การจัดตลาดนัดข้าวเปลือกจะไล่ไปตามจังหวัดต่างๆ จัดครั้งละ 1-3 วัน กลุ่มเป้าหมายเกษตรกรในแหล่งผลิตพื้นที่ 52 จังหวัด รวม 127 ครั้ง โดยจะพิจารณาจากแหล่งผลิตข้าวเปลือกจังหวัดหลักในพื้นที่ 19 จังหวัด จังหวัดละ 3 ครั้ง ประมาณ 57 ครั้ง ได้แก่ เชียงราย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ อุดรธานี สกลนคร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ขอนแก่น นครราชสีมา ชัยนาท สุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา
รวมถึงแหล่งผลิตข้าวเปลือกจังหวัดรองในพื้นที่ 33 จังหวัด จังหวัดละ 2-3 ครั้ง ประมาณ 68 ครั้ง ได้แก่ พะเยา เชียงใหม่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี ลำพูน ตาก แพร่ น่าน หนองบัวลำภู หนองคาย นครพนม ยโสธร อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ เลย มุกดาหาร ลพบุรี อ่างทอง ปทุมธานี นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว นครปฐม ราชบุรี สระบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
source: matichon.co.th/news/361326