data-ad-format="autorelaxed">
เคล็ดลับการปลูก ลองกอง
ขณะที่ชาวสวนผลไม้หลายแห่งทั้งในภาคตะวันออกและภาคใต้ โดยเฉพาะ "ลองกอง" ต่างประสบปัญหาราคาตกต่ำซากซาก ปีแล้วปีเล่า แต่ผลผลิตผลลองกองใน "ไร่อ่างทอง" ของโกกิม "สมคิด คงเสรีนนท์" เกษตรกรวัย 60 ปี ผู้กว้างขวางในวงการเกษตร จากหมู่ 1 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง กลับมีราคาดี ซื้อจากสวนกิโลกรัมละ 40-50 บาท ปลูกในพื้นที่เพียง 23 ไร่ มีรายได้ปีละกว่า 2 ล้านบาท เนื่องจากผลผลิตดี รสชาติอร่อย เพราะยึดหลัก 3 ข้อ "ต้องสายพันธุ์ดี-ต้องดินดี-ต้องดูแลรักษาดี" ทำให้ผลผลิตสมบูรณ์จนได้รับรางวัลดีเด่นมากมาย
สวนผสมบนเนื่อที่ 23 ไร่
สมคิด หรือ "โกกิม" บอกว่า ได้บุกเบิกทำสวนผสมผสานมาตั้งปี 2531 หรือ 22 ปีก่อน ในพื้นที่ 23 ไร่ ใช้ชื่อสวนว่า "ไร่อ่างทอง" มีลองกองมากที่สุดประมาณ 800 ต้น ส่วนที่เหลือก็จะเป็นมังคุด ประมาณ 30 ต้น รวมทั้งกล้วยและผลไม้อื่นๆ อีกสารพัด ส่วนลองกองซึ่งเป็นผลไม้หลักในไร่แห่งนี้ เป็นพันธุ์หอม ซึ่งได้จากการที่เขาลงทุนไปตระเวนหา จนกระทั่งได้พันธุที่คุณภาพดี แล้วนำยอดมาเสียบกับต้นพันธุ์ท้องถิ่น ปรากฏว่า ทำให้ลองกองชนิดนี้มีความเด่นกว่าพันธุ์อื่นๆ อาทิ มีขนาดต้นที่ไม่สูงมาก เหมาะสำหรับการดูแลรักษา หรือเก็บเกี่ยวผลผลิต มีความแข็งแรงทนทาน ให้ผลผลิตได้หลายสิบปี แถมยังสามารถอาศัยอยู่กับพืชชนิดอื่นได้ดีด้วย
ที่สำคัญก็คือ ลองกองพันธุ์หอม มีกลิ่นหอมสมชื่อ เมื่อปลิดผลออกมาจากต้นแล้ว สามารถแกะรับประทานได้ทันที โดยมีรสชาติหวานอร่อย ต่างกับลองกองพันธุ์อื่น ที่บางครั้งต้องนำมาบ่มทิ้งเอาไว้ 2-3 คืน ให้ลืมต้นก่อนจะนำไปจำหน่ายได้ นอกจากนั้นหากเกษตรกรไม่ประสงค์ที่จะเก็บผล ก็สามารถปล่อยให้สุกบนต้นได้เลยเป็นระยะเวลาเกือบ 2 เดือน โดยที่ผลจะไม่เน่าหรือร่วงลงมา
ยึดหลัก 3 ข้อ ลองกองจึงได้ราคาดี
"การทำสวนผลไม้ให้ประสบความสำเร็จได้ ต้องยึดหลัก 3 ข้อ คือ 1.ต้องสายพันธุ์ดี 2.ต้องดินดี และ 3.ต้องดูแลรักษาดี ผมโชคดีที่ไร่ผมเป็นเนิน หรือเป็นควน ต้นไม้จึงไม่อุ้มน้ำ ขณะเดียวกันด้านล่างก็เป็นสายน้ำที่ไหลลงไปสู่น้ำตก ฉะนั้นในช่วงหน้าแล้งจึงมีน้ำเพียงพอในการรดต้นไม้ คือผมต่อท่อดูดขึ้นมาแล้วจ่ายผ่านระบบสปิงเกอร์จะให้น้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วย" สมคิด กล่าว
การให้ปุ๋ยลองกอง
ในส่วนของการให้ปุ๋ย สมคิดบอกว่า ส่วนใหญ่จะเน้นปุ๋ยธรรมชาติ ด้วยการนำเศษไม้ เศษหญ้า มาสุมไว้ใต้โคนต้นลองกอง ให้ย่อยสลายไปเอง แต่ปีหนึ่งๆ ก็อาจจะใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ให้ต้นไม้บ้างสัก 1 ครั้ง พร้อมทั้งตัดแต่งกิ่งที่ไม่จำเป็น หรือแต่งผลที่ไม่ค่อยสวยงามทิ้งไป ซึ่งจะไม่ใช้ยากำจัดวัชพืช หรือยาปราบศัตรูพืช เพื่อให้ผลไม้ที่ออกมาจำหน่ายปลอดสารพิษจริงๆ
"ในแต่ละปีสวนของผมจะมีผลผลิตลองกองประมาณปีละ 50-60 ตัน ในราคากิโลกรัมละ 40-50 บาท ลองคิดเป็นเงินก็กว่า 2 ล้านบาท ถือว่าได้ราคาดีกว่าสวนอื่นๆ ซึ่งขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 20-30 บาท ลูกค้าผมใน จ.ตรัง รวมถึงมาจากกระบี่ นครศรีธรรมราช ให้ความสนใจสั่งลองกองไปรับประทาน คนในพื้นที่รู้จักผมดี แห่มาซื้อถึงไร่เลยทีเดียว"
ปลูกยางพาราระหว่างต้นลองกอง
เนื่องจากสวนผลไม้มีอายุกว่า 20 ปีแล้ว สมคิด ทดลองนำยางพาราปลูกในไร่อ่างทอง เป็นพันธุ์อาร์อาร์ไอที 251 ปลูกลงไประหว่างต้นลองกอง ตอนนี้มีอายุกว่า 3 ปีแล้ว มีทั้งหมด 1,600 ต้น ปรากฏว่า ไม่ได้ก่อให้เกิดผลกระทบอะไรต่อการให้ผลผลิตของลองกอง ขณะที่ยางพาราก็โตวันโตคืนเหมือนกับสวนอื่นๆ นับเป็นแนวคิดของการทำการเกษตรแบบผสมผสานที่น่าสนใจยิ่ง
ด้วยความสำเร็จนี้จึงทำให้ "ไร่อ่างทอง" ได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะรางวัลสวนเกษตรดีเด่น จากกรมส่งเสริมการเกษตร อีกทั้งยังได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในศูนย์บริการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรประจำอำเภอสิเกา ทำให้มีเกษตรกรจำนวนมากเดินทางมาชมไร่ เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการเกษตรแบบผสมผสาน
ข้อมูลจาก "เมธี เมืองแก้ว " komchadluek.net