อ้อย–มันสำปะหลัง–ปาล์มน้ำมัน–ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4 พืชเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลจะส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกมากขึ้น เพื่อทดแทนการปลูกข้าวที่มีปัญหา มีผลผลิตมากเกินจนล้นตลาด ล้นประเทศ
คณะอนุกรรมการร่วมจัดทำยุทธศาสตร์สินค้าเกษตรเป็นรายพืชเศรษฐกิจ 4 สินค้า เห็นชอบให้ลดพื้นที่ปลูกข้าวในพื้นที่ไม่เหมาะสม 10 ล้านไร่ แล้วให้เกษตรกรหันไปปลูกอ้อยเพิ่มอีก 6 ล้านไร่...ปาล์มน้ำมันเพิ่ม 3 ล้านไร่... มันสำปะหลังเพิ่ม 0.5 ล้านไร่...ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มอีก 0.4 ล้านไร่
ด้วยมีนิมิตฝันไปว่า การลดพื้นที่ปลูกข้าว แล้วส่งเสริมให้ชาวนามาปลูกพืช 4 ชนิดนี้ จะผลักดันให้ไทยสามารถแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบอาเซียนได้ และยังเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจได้ในอนาคต
มีคำถามโบราณตามมา...ถ้าปรากฏการณ์เช่นที่ว่าไม่จริง ชาวนาเปลี่ยนอาชีพไปแล้ว รายได้ไม่ดีขึ้น ใครจะรับผิด!!!
เพราะไม่แน่ใจว่า แผนยุทธศาสตร์ที่คิดขึ้นมานี่ เกษตรกรหรือใครกันแน่ที่จะได้ประโยชน์ ดร.อนันต์ ดาโลดม นายกสมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย ตั้งข้อสังเกต สิ่งที่คิดทำกันขึ้นมานี่ ไม่ได้มาจากผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญในภาคเกษตร ไม่ใช่ข้อเสนอจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แต่มาจาก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่ได้เสนอ คสช.มาตั้งแต่มีการยึดอำนาจใหม่ๆ ก่อนมีรัฐบาล
พร้อมตั้งปุจฉา พืชเศรษฐกิจมีหลายชนิด...ทำไมเลือกเอาแค่ 4 ชนิดนี้
หรือเป็นเพราะประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าของโรงงานน้ำตาลใหญ่อันดับหนึ่ง ต้องการอ้อยเป็นวัตถุดิบ...รองประธานฯ เป็นลูกจ้างบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และโรงงานอาหารสัตว์อันดับหนึ่งของประเทศ...กรรมการอื่นๆเป็นเจ้าของโรงงานมันเส้น ลานมัน และส่งออกมันสำปะหลัง
ที่ผ่านมา พืช 4 ชนิดนี้ มีปัญหาเรื่องราคาตกต่ำอยู่แล้ว ปลูกเพิ่มให้ล้นตลาด เพื่อคนรับซื้อจะได้ใช้ของถูก ใช่หรือไม่...รัฐบาลเอาเงินภาษีมาแทรกแซง ประเทศชาติฉิบหายไม่ใช่เงินของบริษัท ใช่หรือเปล่า
ข้อมูลจาก
ชมชื่น ชูช่อ
thairath.co.th/content/467717