การปลูกและดูแลส้ม (ทุกสายพันธุ์) ให้ได้ผลผลิตดี
การปลูกส้มไม่ว่าจะเป็นพันธุ์สายน้ำผึ้ง เขียวหวาน ส้มโชกุน หรือส้มโอ ล้วนต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจในระบบการเจริญเติบโตของพืช ตลอดจนการจัดการธาตุอาหารที่เหมาะสมในแต่ละช่วงของชีวิตพืช หากผู้ปลูกสามารถดูแลได้อย่างถูกต้องตั้งแต่ระยะเพาะปลูกไปจนถึงการเก็บเกี่ยว ก็จะช่วยให้ได้ผลผลิตที่ดี ขนาดสม่ำเสมอ และมีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด
หลักการปลูกส้มให้ประสบความสำเร็จ
เริ่มต้นจากการเตรียมพื้นที่ ควรเลือกพื้นที่ที่มีการระบายน้ำดี ดินร่วนปนทราย หรือดินร่วนเหนียวก็สามารถปลูกได้ถ้ามีอินทรียวัตถุเพียงพอ และไม่มีน้ำท่วมขัง การปลูกควรใช้กล้าส้มที่แข็งแรง มีระบบรากสมบูรณ์ และปลูกในช่วงต้นฤดูฝนเพื่อให้ต้นไม้ตั้งตัวได้ดี
การให้น้ำควรทำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงแตกใบอ่อน ออกดอก และขยายผล การคลุมโคนด้วยหญ้าแห้งหรือฟางข้าวสามารถช่วยรักษาความชื้นและยับยั้งวัชพืชได้
การดูแลและการให้ปุ๋ยทางใบตามระยะการเจริญเติบโต
การจัดการธาตุอาหารเป็นหัวใจสำคัญในการปลูกส้มให้ได้ผลผลิตสูง ปุ๋ยทางใบเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ เพราะพืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในสภาพดินที่มีปัญหา
1. ระยะบำรุงต้น (เริ่มแตกใบใหม่)
ช่วงนี้ส้มต้องการพลังงานเพื่อฟื้นตัวและแตกใบใหม่ การใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ซึ่งประกอบด้วยธาตุหลักสูตร 20-20-20 และธาตุเสริม แมกนีเซียมกับซิงค์ จะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของใบและรากได้ดี
แนะนำ: ฉีดพ่น FK-1 ทุก 7-10 วัน โดยใช้ปุ๋ยจากทั้งสองถุงอย่างละ 25-50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร
2. ระยะสร้างตาดอก
เป็นช่วงที่ส้มต้องการฟอสฟอรัสเพื่อเร่งการสะสมอาหารและสร้างตาดอก FK-1 ยังสามารถใช้ต่อเนื่องได้ในช่วงนี้ แต่ควรลดความถี่ในการฉีดเหลือทุก 10-14 วัน
3. ระยะติดผลและขยายผล
ช่วงนี้ควรเน้นโพแทสเซียมเพื่อเพิ่มน้ำหนักและขนาดของผล การเปลี่ยนมาใช้ FK-3 ซึ่งมีสูตรธาตุหลัก 5-10-40 จะช่วยเสริมความหวาน และทำให้ผลส้มมีสีสันสวยงาม
แนะนำ: ฉีดพ่น FK-3 ทุก 10 วัน โดยใช้อัตราส่วนเดิมกับ FK-1
4. ระยะใกล้เก็บเกี่ยว
ควรงดการให้ปุ๋ยทางใบก่อนเก็บเกี่ยวประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้รสชาติและกลิ่นของผลส้มคงความเป็นธรรมชาติ
แนะนำผลิตภัณฑ์: ปุ๋ยทางใบ FK-1 และ FK-3 ตัวช่วยเกษตรกรยุคใหม่
ปุ๋ยทางใบ FK-1
เหมาะสำหรับช่วงเร่งโต แตกใบใหม่ และสร้างตาดอก ประกอบด้วยธาตุหลักครบถ้วน (N-P-K 20-20-20) พร้อมธาตุเสริมแมกนีเซียมและซิงค์
ใช้ได้ 5 ไร่/กล่อง
ผสมน้ำ 400-800 ลิตร/กล่อง
ฉีดพ่นได้อย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ใบเขียวเข้ม รากเดินดี ต้นแข็งแรง
ปุ๋ยทางใบ FK-3
เหมาะสำหรับระยะติดผลและขยายผล ด้วยโพแทสเซียมสูง (สูตร 5-10-40) ช่วยเพิ่มขนาดผล เพิ่มความหวาน และเร่งสีผลให้สวย
ใช้ได้ 5 ไร่/กล่อง
ผสมน้ำ 400-800 ลิตร/กล่อง
ฉีดพ่นต่อเนื่องจนใกล้เก็บเกี่ยว ผลผลิตคุณภาพสูง
ทั้งสองสูตร มีการแบ่งบรรจุแยกเป็น 2 ถุง (ธาตุหลักและธาตุเสริม) ต้องใช้ควบคู่กัน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
สรุป
การปลูกส้มให้ได้ผลผลิตดี จำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติของพืชในแต่ละช่วงชีวิต และเสริมด้วยการให้อาหารทางใบอย่างแม่นยำ ปุ๋ย FK-1 และ FK-3 ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้การปลูกส้มเป็นเรื่องง่ายขึ้น สำหรับเกษตรกรที่ต้องการผลผลิตที่ทั้งคุณภาพดีและปริมาณสูง
การสั่งซื้อ ปุ๋ยทางใบ FK-1 และ FK-3
โทร 090-592-8614
ไลน์ @FarmKaset
ซื้อกับลาซาด้า
ปุ๋ย FK-1:
https://c.lazada.co.th/t/c.1dnbLB ปุ๋ย FK-3:
https://c.lazada.co.th/t/c.1dnbnD ซื้อกับช้อปปี้
ปุ๋ย FK-1:
https://s.shopee.co.th/1g5ocjyxWb ปุ๋ย FK-3:
https://s.shopee.co.th/50MGacaf2Z #ปลูกส้ม #ดูแลสวนส้ม #ปุ๋ยทางใบ #FK1 #FK3 #เกษตรกรยุคใหม่ #ส้มเขียวหวาน #ส้มโชกุน #ปลูกส้มให้ได้ผลดี #ปุ๋ยเร่งโต #ปุ๋ยเร่งหวาน