หน้าแรก
บทความ
สินค้า
ตามสินค้า
ติดต่อเรา
Central Lab ห้องปฏิบัติการกลาง
iLab ตรวจดิน
รับจ้างผลิตปุ๋ยยาฯOEM
แอพผสมปุ๋ย
English
📱 ติดตั้งแอพมือถือ ฟาร์มเกษตร ฟรี!ไม่มีเงื่อนไข
(รวมแอพผสมปุ๋ย และแอพเกษตรอื่นๆไว้ในแอพนี้)
พิมพ์คำค้นหา หรือลองคลิกตัวอย่าง >
มันสำปะหลัง
,
ข้าว
,
อ้อย
,
ทุเรียน
,
กัญชา
,
ข้าวโพด
,
ปาล์ม
,
ยางพารา
,
อินทผลัม
,
โรคใบไหม้
,
ราสนิม
,
เพลี้ย
,
ยาแช่ท่อนพันธุ์
[sort by :
last post
|
top views
]
..
+ โพสเรื่องใหม่
|
^ เลือกหน้า
|
All contents
3589 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 9 รายการ
กรุณากรอกหัวข้อ
พิมพ์คำว่า ฟาร์มเกษตร
พิมพ์คำว่า ฟาร์มเกษตร
รู้ทันศัตรูพืช! ป้องกันเพลี้ยและแมลงปากดูดอย่างได้ผล 🌿
เหมาะสำหรับพืชทุกชนิดที่ถูกแมลงปากดูดรบกวน เช่น เพลี้ยไฟ เพลี้ยกระโดด เพลี้ยจักจั่น เพลี้ยไก่แจ้ แมลงหวี่ขาว ฯลฯ
(❗ไม่รวมพวกปากกัด เช่น หนอน แมลงเต่า ไรแดง และเพลี้ยหอย)
🔎 อาการของพืชเมื่อถูกเพลี้ยและแมลงปากดูดทำลาย
✔ ใบพืชมีรอยด่าง ใบหงิก ใบเหลือง
✔ ยอดอ่อนแห้งตาย พืชชะงักการเจริญเติบโต
✔ ลดการสังเคราะห์แสง → ผลผลิตลด
✔ เพลี้ยบางชนิดเป็นพาหะของโรคไวรัส
✔ มีราดำจากมูลเพลี้ยหรือแมลงหวี่ขาว
🛡️ "มาคา" – สารอินทรีย์เพื่อกำจัดเพลี้ยอย่างปลอดภัย
🌱 สกัดจากพืชตระกูลอัลคาลอยด์
✅ ออกฤทธิ์รบกวนระบบประสาทแมลง → หยุดกิน → ตาย
✅ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม
✅ เหมาะกับเกษตรอินทรีย์-เกษตรปลอดภัย
📌 อัตราการใช้:
– มาคา 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
– บรรจุขวดละ 1 ลิตร
– ฉีดพ่นทั่วต้น โดยเฉพาะใต้ใบ ช่วงเช้าหรือเย็น
💪 เพิ่มประสิทธิภาพด้วยปุ๋ยทางใบ FK-1
การใช้มาคาร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยให้
✨ พืชแข็งแรง ฟื้นตัวไว ต้านเพลี้ยได้ดี
✨ เสริมธาตุอาหารที่จำเป็นในการเจริญเติบโต
📦 ปุ๋ย FK-1 1 กล่อง = 2 ซอง (ผสมใช้พร้อมกันเท่านั้น)
🧪 ซองที่ 1: ธาตุหลัก – ไนโตรเจน (N)_ ฟอสฟอรัส (P)_ โพแทสเซียม (K)
🧬 ซองที่ 2: ธาตุรอง – แมกนีเซียม (Mg)_ สังกะสี (Zn)
🧴 วิธีใช้รวม:
– ผสม FK-1 (ทั้ง 2 ซอง) ในน้ำตามอัตราที่แนะนำ
– เติมมาคา 50 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร
– ฉีดพ่นร่วมกัน ทุก 5-7 วันในช่วงมีการระบาด
✅ ปลอดภัย
✅ เห็นผลจริง
✅ ใช้ได้ทั้งพืชผัก ผลไม้ ไม้ดอก ไม้ประดับ
📩 สนใจสั่งซื้อ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ทักมาหาเราได้เลยค่ะ 👇
#เพลี้ยไฟ #เพลี้ยกระโดด #เพลี้ยไก่แจ้ #แมลงหวี่ขาว #แมลงปากดูด #เกษตรอินทรีย์ #มาคา #ปุ๋ยFK1 #ปลอดภัยไร้สารตกค้าง #วิถีเกษตรปลอดภัย
อ่าน:138
การใช้ปุ๋ยทางใบ เพื่อเสริมธาตุอาหารอย่างมีประสิทธิภาพในข้าว
บทนำ
ต้นข้าวต้องการธาตุอาหารครบถ้วนตลอดวงจรชีวิต เพื่อให้ได้ผลผลิตสูงและมีคุณภาพ การใส่ปุ๋ยทางดินเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากธาตุอาหารบางชนิดถูกตรึงในดินหรือสูญเสียจากการชะล้าง การใช้ ปุ๋ยทางใบ จึงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ FK-1 และ FK-3R ซึ่งได้รับการออกแบบมาให้เหมาะกับการเจริญเติบโตของข้าวในแต่ละช่วง
ส่วนประกอบและบทบาทของธาตุอาหารใน FK-1
FK-1 สูตร 20-20-20 + ธาตุเสริม เหมาะสำหรับช่วงต้นฤดูปลูก ช่วยกระตุ้นการแตกกอและการตั้งต้นของข้าว
ธาตุหลักใน FK-1:
ไนโตรเจน (20%)
- ส่งเสริมการสร้างโปรตีนและคลอโรฟิลล์
- เร่งการแตกกอ ใบเขียวเข้ม การสังเคราะห์แสงดีขึ้น
- จำเป็นในช่วงเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ
ฟอสฟอรัส (20%)
- กระตุ้นการพัฒนาระบบรากให้แข็งแรง
- ส่งเสริมการสร้างพลังงาน (ATP) และการแบ่งเซลล์
- ช่วยให้ต้นข้าวตั้งตัวได้ดีและทนต่อสภาพแวดล้อม
โพแทสเซียม (20%)
- ควบคุมการเปิด-ปิดปากใบและการลำเลียงน้ำตาล
- เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับลำต้น
- แม้ไม่ใช่ช่วงสร้างเมล็ด แต่โพแทสเซียมช่วยเสริมโครงสร้างพืชแต่แรก
ธาตุเสริมใน FK-1:
- แมกนีเซียม
- เป็นแกนกลางของคลอโรฟิลล์
- ช่วยให้ข้าวสังเคราะห์แสงได้เต็มที่
ซิงค์ (สังกะสี)
- จำเป็นต่อการสังเคราะห์ฮอร์โมนพืช เช่น ออกซิน
- เร่งการแตกกอ การเจริญเติบโตของยอดอ่อน และการพัฒนาใบ
ส่วนประกอบและบทบาทของธาตุอาหารใน FK-3R
FK-3R สูตร 5-10-40 + ธาตุเสริม เหมาะสำหรับช่วงข้าวตั้งท้อง–ออกรวง ต้องการสารอาหารเพื่อสร้างดอกและเมล็ด
ธาตุหลักใน FK-3R:
- ไนโตรเจน (5%)
- ในปริมาณน้อย เพื่อไม่ให้ต้นข้าวแตกใบมากเกินไป
- รักษาความเขียวของต้นในช่วงใกล้เก็บเกี่ยว
ฟอสฟอรัส (10%)
- สนับสนุนการสร้างดอกและพัฒนารวง
- ช่วยเคลื่อนย้ายพลังงานไปยังส่วนของเมล็ด
- โพแทสเซียม (40%)
เน้นโพแทสเซียมสูงเป็นพิเศษ
- เร่งการอัดเมล็ดและเพิ่มน้ำหนักข้าว
- เพิ่มความต้านทานต่อโรคและความแห้งแล้ง
- ช่วยข้าวสุกเสมอกัน ลดปัญหาเมล็ดลีบ
ธาตุเสริมใน FK-3R:
แมกนีเซียม
- สนับสนุนการสร้างแป้งและน้ำตาล
ซิงค์
- กระตุ้นการสร้างเมล็ดและการแบ่งเซลล์ช่วงสุดท้าย
- ช่วยให้รวงข้าวสมบูรณ์ สม่ำเสมอ
กลยุทธ์การใช้ FK-1 และ FK-3R ร่วมกัน
การวางแผนการให้ปุ๋ยทางใบตามช่วงอายุข้าวเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มผลผลิต:
- ช่วง 15–30 วันหลังหว่าน/ปักดำ: ใช้ FK-1 เพื่อกระตุ้นการแตกกอและการพัฒนาราก
- ช่วงเริ่มตั้งท้อง–ออกรวง: ใช้ FK-3R เพื่อเร่งการสร้างเมล็ดและเพิ่มน้ำหนัก
การใช้ร่วมกันนี้ ช่วยให้พืชได้รับธาตุอาหารอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมกับระยะพัฒนาการของต้นข้าว
สรุป
FK-1 และ FK-3R ไม่ใช่เพียงแค่ปุ๋ยทางใบทั่วไป แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการบริหารจัดการธาตุอาหารแบบแม่นยำ (Precision Fertilization) แต่ละสูตรถูกออกแบบตามความต้องการของข้าวในแต่ละช่วง ทำให้สามารถเพิ่มผลผลิตทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
หากสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อ สามารถติดต่อได้ที่
โทร: 090-592-8614
ไลน์ไอดี: @FarmKaset
อ่าน:316
การป้องกันกันกำจัดโรคพืช อย่างมีประสิทธิภาพ โรคใบไหม้ โรคใบจุด โรคราสนิม โรคราต่างๆ
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1: ประโยชน์และวิธีการใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคพืช
บทนำ
การเกษตรสมัยใหม่จำเป็นต้องอาศัยนวัตกรรมและเทคนิคที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดความเสียหายจากโรคพืช บทความวิชาการนี้นำเสนอการใช้สารป้องกันกำจัดโรคพืชแพนน่อน (ที่มีสารออกฤทธิ์คือแมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เพื่อการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ประสิทธิภาพของแพนน่อน (แมนโคเซป) ในการป้องกันกำจัดโรคพืช
แพนน่อน ซึ่งมีสารออกฤทธิ์สำคัญคือแมนโคเซป เป็นสารป้องกันกำจัดโรคพืช (fungicide) ประเภทสัมผัส ที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา สามารถใช้ป้องกันกำจัดโรคพืชได้หลากหลายชนิด ได้แก่:
โรคใบจุด (Leaf spot diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราหลายชนิด ทำให้เกิดจุดบนใบพืช ส่งผลให้พื้นที่ในการสังเคราะห์แสงลดลง
โรคราสนิม (Rust diseases) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Puccinia ทำให้เกิดแผลสีส้มหรือสีน้ำตาลบนใบพืช
โรคราน้ำค้าง (Downy mildew) - โรคที่เกิดจากเชื้อราในกลุ่ม Oomycetes ทำให้เกิดคราบขาวใต้ใบพืช
โรคแอนแทรคโนส (Anthracnose) - โรคที่ทำให้เกิดแผลยุบตัวบนผล ใบ และลำต้น
โรคใบไหม้ (Blight diseases) - โรคที่ทำให้ใบพืชเหี่ยวแห้งและตายอย่างรวดเร็ว
โรคผลเน่า (Fruit rot) - โรคที่ทำให้ผลไม้เน่าเสียก่อนเก็บเกี่ยว
แมนโคเซปมีความเหมาะสมในการใช้กับพืชหลายชนิด เช่น:
ข้าว - ป้องกันโรคไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Pyricularia oryzae
ผัก - ป้องกันโรคราน้ำค้างและโรคใบจุดในพืชตระกูลแตง มะเขือเทศ และพืชผักอื่นๆ
ไม้ผล - ป้องกันโรคแอนแทรคโนสและโรคผลเน่าในมะม่วง ทุเรียน และผลไม้อื่นๆ
มันฝรั่ง - ป้องกันโรคใบไหม้ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora infestans
ยางพารา - ป้องกันโรคใบร่วงที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthora และ Colletotrichum
องค์ประกอบและประโยชน์ของปุ๋ยทางใบ FK-1
ปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นปุ๋ยสูตรพิเศษที่ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช ได้แก่:
ไนโตรเจน (N) - ช่วยในการเจริญเติบโตของใบและลำต้น กระตุ้นการสร้างโปรตีนและคลอโรฟิลล์
ฟอสฟอรัส (P) - ช่วยในการออกดอก ติดผล และพัฒนาระบบราก มีบทบาทสำคัญในกระบวนการถ่ายทอดพลังงาน
โพแทสเซียม (K) - เพิ่มความแข็งแรงของพืช ช่วยในการเคลื่อนย้ายน้ำตาล และเพิ่มความต้านทานต่อโรคและแมลง
แมกนีเซียม (Mg) - เป็นองค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยในกระบวนการสังเคราะห์แสง
ซิงค์ (Zn) - ช่วยในการสร้างฮอร์โมนเติบโตและเอนไซม์ที่สำคัญ ส่งเสริมการสังเคราะห์โปรตีน
ประโยชน์ของการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1
การผสมแพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 และฉีดพ่นไปพร้อมกัน ให้ประโยชน์หลายประการต่อเกษตรกรและพืช ดังนี้:
1. เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ
การใช้สารป้องกันกำจัดโรคควบคู่กับการเสริมธาตุอาหารให้พืช เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ โดยแมนโคเซปจะช่วยป้องกันการเข้าทำลายของเชื้อรา ในขณะที่ปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืช ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น
2. ประหยัดเวลาและลดต้นทุนการผลิต
การฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดโรคและปุ๋ยทางใบในคราวเดียวกัน ช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต เนื่องจาก:
ลดจำนวนครั้งในการฉีดพ่น
ประหยัดน้ำและเชื้อเพลิงที่ใช้ในการฉีดพ่น
ลดการสึกหรอของอุปกรณ์การเกษตร
ลดค่าแรงงานในการฉีดพ่น
3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช
ธาตุอาหารที่เพียงพอ โดยเฉพาะโพแทสเซียม ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของพืช ทำให้พืชแข็งแรงและต้านทานต่อการเข้าทำลายของเชื้อโรคได้ดีขึ้น ซึ่งเป็นการเสริมประสิทธิภาพการทำงานของแมนโคเซปในการป้องกันกำจัดโรคพืช
4. เร่งการฟื้นตัวของพืชที่เริ่มแสดงอาการของโรค
หากพืชเริ่มแสดงอาการของโรค การได้รับทั้งสารป้องกันกำจัดโรคและธาตุอาหารพร้อมกัน จะช่วยให้พืชสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้น โดยแมนโคเซปจะช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อรา ในขณะที่ธาตุอาหารจะช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
5. เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของสารป้องกันกำจัดโรค
ธาตุอาหารบางชนิดในปุ๋ยทางใบ FK-1 อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของแมนโคเซปเข้าสู่เนื้อเยื่อพืช ทำให้การป้องกันกำจัดโรคมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีการใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 อย่างมีประสิทธิภาพ
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและปลอดภัยต่อพืช ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้:
1. การทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมี
ก่อนนำแพนน่อนและปุ๋ยทางใบ FK-1 มาผสมกันเพื่อใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ ควรทำการทดสอบความเข้ากันได้ของสารเคมีในปริมาณน้อยก่อน เพื่อตรวจสอบว่าไม่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ไม่พึงประสงค์ เช่น การตกตะกอน การแยกชั้น หรือการเกิดฟอง
2. อัตราส่วนการผสมที่เหมาะสม
ควรใช้อัตราส่วนการผสมตามที่ระบุไว้บนฉลากของทั้งสองผลิตภัณฑ์ โดยทั่วไปแล้ว:
แพนน่อน (แมนโคเซป): ใช้อัตรา 40-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
ปุ๋ยทางใบ FK-1: ใช้อัตรา 25-50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร
หมายเหตุ แกะกล่องมาจะผสมสองถุง ต้องใช้ทั้งสองถุงผสมกัน
3. การผสมสารเคมี
ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพของการใช้สารเคมี ควรปฏิบัติดังนี้:
เติมน้ำลงในถังพ่นประมาณครึ่งถัง
ละลายแพนน่อน (แมนโคเซป) ในน้ำปริมาณเล็กน้อยก่อน แล้วจึงเทลงในถังพ่น
คนให้เข้ากัน
เติมปุ๋ยทางใบ FK-1 ลงในถังพ่น
คนให้เข้ากันอีกครั้ง
เติมน้ำให้ได้ปริมาตรตามต้องการ
คนให้เข้ากันตลอดเวลาระหว่างการฉีดพ่น
4. ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการฉีดพ่น
ควรฉีดพ่นในช่วงเช้าหรือเย็น เมื่อแสงแดดไม่จัดและอุณหภูมิไม่สูงเกินไป เพื่อให้พืชสามารถดูดซึมสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพและป้องกันการเกิดอาการไหม้ของใบพืช
5. ความถี่ในการฉีดพ่น
ความถี่ในการฉีดพ่นขึ้นอยู่กับชนิดของพืช ระยะการเจริญเติบโต และความรุนแรงของโรค โดยทั่วไปควรฉีดพ่นทุก 7-14 วัน หรือตามที่ระบุไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์
6. ข้อควรระวัง
ควรผสมและใช้ทันที ไม่ควรเก็บสารละลายที่ผสมแล้วไว้ข้ามคืน
สังเกตอาการของพืชหลังการฉีดพ่น หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้
ควรสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เช่น ถุงมือ หน้ากาก และชุดป้องกัน ขณะผสมและฉีดพ่นสารเคมี
ไม่ควรฉีดพ่นในขณะที่มีลมแรง เพื่อป้องกันการปลิวของละอองสารเคมีไปยังพื้นที่ข้างเคียง
สรุป
การใช้แพนน่อน (แมนโคเซป) ร่วมกับปุ๋ยทางใบ FK-1 เป็นแนวทางการจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการที่มีประสิทธิภาพ ช่วยป้องกันและควบคุมโรคพืชที่เกิดจากเชื้อรา พร้อมทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงให้พืชด้วยธาตุอาหารที่จำเป็น ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยประหยัดเวลา แรงงาน และลดต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตาม การใช้สารเคมีทางการเกษตรควรปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากและหลักการใช้สารเคมีอย่างปลอดภัย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและมีความปลอดภัยต่อเกษตรกร ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม
คำสำคัญ
แพนน่อน_ แมนโคเซป_ ปุ๋ยทางใบ FK-1_ โรคพืช_ สารป้องกันกำจัดโรคพืช_ ไนโตรเจน_ ฟอสฟอรัส_ โพแทสเซียม_ แมกนีเซียม_ ซิงค์_ การจัดการศัตรูพืชแบบบูรณาการ_ ราสนิม_ ราน้ำค้าง_ ใบจุด_ แอนแทรคโนส_ ใบไหม้_ ผลเน่า_ การป้องกันโรคพืช
อ่าน:278
ปุ๋ยทางใบ FK-1: พลังแห่งธาตุอาหารที่เปลี่ยนการเติบโตของพืชของคุณ!
ท่านเคยสังเกตไหมว่าพืชของท่านเติบโตช้า ใบเหลือง หรือออกดอกออกผลไม่สมบูรณ์? นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าพืชของท่านกำลังขาดธาตุอาหารที่จำเป็น! แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะปุ๋ยทางใบ FK-1 คือคำตอบที่ท่านรอคอย!
ส่วนประกอบมหัศจรรย์ที่ครบครัน
ปุ๋ยทางใบ FK-1 ได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย ประกอบด้วยธาตุอาหารหลักที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น:
ไนโตรเจน - ตัวช่วยสำคัญในการสร้างใบและลำต้นที่แข็งแรง กระตุ้นการเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ ทำให้พืชเขียวชอุ่มน่ามอง
ฟอสฟอรัส - เร่งการเจริญเติบโตของรากและการออกดอกออกผล เสริมความแข็งแรงให้ระบบรากและช่วยให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น
โพแทสเซียม - เพิ่มความต้านทานโรคและแมลง ช่วยให้พืชทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม และเสริมคุณภาพของผลผลิต
แมกนีเซียม - องค์ประกอบสำคัญของคลอโรฟิลล์ ช่วยให้กระบวนการสังเคราะห์แสงมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้พืชสร้างอาหารได้มากขึ้น
ซิงค์ - กระตุ้นการสร้างฮอร์โมนเพื่อการเติบโต ช่วยให้พืชสร้างโปรตีนและเอนไซม์ที่จำเป็น เร่งการเจริญเติบโตและพัฒนาการของพืช
ทำไมปุ๋ยทางใบ FK-1 จึงเหนือกว่า?
เมื่อพ่นปุ๋ยทางใบ FK-1 ธาตุอาหารจะถูกดูดซึมเข้าสู่พืชโดยตรงผ่านทางใบ ซึ่งเร็วกว่าการให้ปุ๋ยทางดินถึง 8-10 เท่า! นี่คือประโยชน์ที่คุณจะได้รับ:
การดูดซึมที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ - ธาตุอาหารเข้าสู่พืชโดยตรง ไม่สูญเสียไปกับดินหรือน้ำ
เห็นผลภายใน 24-48 ชั่วโมง - พืชจะเริ่มมีสีเขียวเข้มขึ้น แตกใบอ่อนใหม่ และมีความสดชื่นอย่างเห็นได้ชัด
ใช้ได้กับพืชทุกชนิด - ไม่ว่าจะเป็นพืชผัก ไม้ผล ไม้ดอก หรือพืชไร่ FK-1 ช่วยเพิ่มผลผลิตได้อย่างน่าทึ่ง
แก้ปัญหาการขาดธาตุอาหารได้ทันที - เมื่อพืชแสดงอาการขาดธาตุอาหาร การพ่น FK-1 จะช่วยแก้ไขปัญหาได้รวดเร็ว
ประโยชน์มหาศาลที่คุณเห็นได้ด้วยตาตัวเอง
เกษตรกรผู้ใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ต่างยืนยันว่าได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง:
พืชผักเติบโตเร็วขึ้น 30-40% เก็บเกี่ยวได้เร็วกว่ากำหนด
ไม้ผลออกดอกสม่ำเสมอ ติดผลดกและมีคุณภาพสูง
พืชแข็งแรงต้านทานโรคและแมลงได้ดีขึ้น ลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืช
สีและรสชาติของผลผลิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
วิธีการใช้ที่ง่ายและคุ้มค่า
การใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 ทำได้ง่าย เพียงผสมน้ำตามอัตราที่แนะนำและพ่นให้ทั่วทั้งต้น โดยเฉพาะบริเวณใต้ใบซึ่งมีปากใบมากกว่า พ่นในช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ปุ๋ยทางใบ FK-1 ใช้ได้กับทุกช่วงการเติบโตของพืช ตั้งแต่ระยะต้นกล้า ระยะเจริญเติบโต ระยะออกดอก และระยะติดผล โดยแต่ละช่วงจะได้รับประโยชน์ที่แตกต่างกัน
เปลี่ยนสวนของคุณให้เขียวชอุ่มและให้ผลผลิตเต็มที่
ไม่ว่าคุณจะเป็นเกษตรกรมืออาชีพหรือเพียงแค่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้เล็กๆ น้อยๆ ปุ๋ยทางใบ FK-1 จะช่วยให้พืชของคุณเติบโตอย่างเต็มศักยภาพ
อย่าปล่อยให้พืชของคุณขาดสารอาหารสำคัญอีกต่อไป! เริ่มใช้ปุ๋ยทางใบ FK-1 วันนี้ และสัมผัสความแตกต่างที่คุณจะเห็นได้ด้วยตาตัวเอง!
อ่าน:318
ใส่ปุ๋ยแล้ว ควรให้ฮิวมิคเพิ่ม ดีไหม เพราะอะไร?
ให้ปุ๋ยกับพืชแล้ว ให้ฮิวมิคเพิ่ม จะดีอย่างไร
ยิ่งยังไม่ได้ให้ปุ๋ย ควรรีบให้ฮิวมิคเลย ด้วยเหตุผลดังนี้
ฮิวมิคเป็นสารอินทรีย์ที่ช่วยปรับปรุงดินให้มีโครงสร้างดีขึ้น เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำ และทำให้ธาตุอาหารในดินละลายและดูดซึมได้ง่ายขึ้น เมื่อให้ฮิวมิคเสริมหลังการให้ปุ๋ย จะช่วยให้ปุ๋ยที่ใส่ไปไม่สูญเสียเปล่า ถูกพืชดูดใช้ได้เต็มที่ ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตได้เร็ว แข็งแรง และให้ผลผลิตดีขึ้น
ในกรณียังไม่ได้ใส่ปุ๋ย การรีบใส่ฮิวมิคก่อน จะช่วยเตรียมสภาพดินให้พร้อมรับปุ๋ยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น ดินจะนุ่ม ร่วนซุย รากพืชสามารถแผ่กระจายและดูดซึมธาตุอาหารได้ดี เมื่อใส่ปุ๋ยตามหลัง ฮิวมิคจะช่วยจับธาตุอาหารไว้ในดิน ไม่ให้ถูกน้ำชะล้างไปง่าย ๆ และค่อย ๆ ปล่อยธาตุอาหารให้พืชนำไปใช้ตามความต้องการอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น การให้ฮิวมิคจึงเหมือนการ "ลงทุนล่วงหน้า" เพื่อให้ทั้งดินและปุ๋ยทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ พืชก็จะเติบโตแข็งแรงสมบูรณ์ในระยะยาว
อ่าน:312
สิ่งที่ "ฮิวมิค" ให้กับต้นทุเรียนได้ แต่ปุ๋ยทั่วไปให้ไม่ได้
1. **ปรับปรุงดินระยะยาว**
- ฮิวมิคช่วยฟื้นฟูโครงสร้างดิน ทำให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำดี ระบายอากาศได้ เหมาะกับรากทุเรียนที่ต้องการดินโปร่ง
- ปุ๋ยเคมีทั่วไปมักทำให้ดินเสื่อมสภาพและแข็งตัวในระยะยาว
2. **เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมปุ๋ย**
- ฮิวมิคทำหน้าที่จับแร่ธาตุอาหารไว้ในดิน ป้องกันการสูญเสียจากการชะล้าง และช่วยให้รากทุเรียนดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่
- ปุ๋ยทั่วไปให้ธาตุอาหารโดยตรง แต่ไม่ช่วยรักษาหรือเสริมการดูดซึมในระยะยาว
3. **กระตุ้นการเจริญเติบโตของราก**
- ฮิวมิคส่งเสริมการแตกแขนงของรากฝอย ทำให้ระบบรากทุเรียนแข็งแรง ดูดน้ำและอาหารได้ดีกว่า
- ปุ๋ยทั่วไปไม่มีคุณสมบัติกระตุ้นระบบรากโดยตรงแบบนี้
4. **เสริมภูมิคุ้มกันต้นทุเรียน**
- ฮิวมิคช่วยให้ต้นไม้ทนต่อสภาวะเครียด เช่น โรคพืช ดินเค็ม น้ำแห้ง หรือสารพิษตกค้าง
- ปุ๋ยทั่วไปเน้นเรื่องการให้ธาตุอาหารอย่างเดียว ไม่ช่วยเรื่องเสริมความทนทานของต้น
5. **ส่งเสริมจุลินทรีย์ดีในดิน**
- ฮิวมิคเป็นอาหารของจุลินทรีย์มีประโยชน์ในดิน ช่วยให้ระบบนิเวศในดินสมบูรณ์
- ปุ๋ยเคมีบางชนิดทำลายจุลินทรีย์ดี และทำให้ดินเสื่อมโทรม
---
**สรุปสั้นมาก:**
> ฮิวมิคช่วยสร้างดินดี รากแข็งแรง ต้นทุเรียนดูดซึมอาหารเก่ง มีภูมิคุ้มกันสูง — สิ่งที่ปุ๋ยเคมีทั่วไปให้ไม่ได้
อ่าน:329
เกษตรกรหันมาใช้ ฮิวมิค จากคุณสมบัติพิเศษหลายประการ ช่วยให้พืชเจริญเติบโต แข็งแร็ง ได้ผลผลิต
ฮิวมิค (Humic) เป็นสารอินทรีย์ธรรมชาติที่มีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ ทำให้เกษตรกรนิยมนำมาใช้ในการเพาะปลูกอย่างแพร่หลาย ดังนี้:
**1. ปรับปรุงโครงสร้างดิน:**
* ช่วยให้ดินร่วนซุย โปร่ง อากาศถ่ายเทได้ดีขึ้น โดยเฉพาะดินเหนียวจะคลายตัว ส่วนดินทรายจะมีการจับตัวดีขึ้น
* เพิ่มความสามารถในการอุ้มน้ำของดิน ทำให้พืชทนทานต่อสภาพแห้งแล้งได้ดีขึ้น
* ลดการชะล้างพังทลายของดิน
**2. เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน:**
* เป็นแหล่งของธาตุอาหารทั้งหลักและรอง รวมถึงจุลธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
* ช่วยปลดปล่อยธาตุอาหารที่ถูกตรึงอยู่ในดินให้พืชสามารถนำไปใช้ได้มากขึ้น
* เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ปุ๋ย ทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น ลดการสูญเสียปุ๋ยจากการชะล้าง
* ส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ในดิน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการย่อยสลายอินทรียวัตถุและสร้างธาตุอาหาร
**3. กระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช:**
* ช่วยให้ระบบรากแข็งแรง แตกแขนงได้ดี ทำให้พืชสามารถดูดน้ำและธาตุอาหารได้มากขึ้น
* ส่งเสริมการสังเคราะห์แสง ทำให้พืชสร้างอาหารได้มากขึ้น
* เพิ่มความต้านทานต่อความเครียดจากสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม เช่น อุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไป และความเค็มของดิน
**4. ปรับสมดุล pH ของดิน:**
* ช่วยปรับสภาพดินที่เป็นกรดหรือด่างให้มีความเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช
**5. ลดผลกระทบจากสารเคมี:**
* ช่วยดูดซับสารพิษและสารเคมีตกค้างในดิน ลดผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อพืชและสิ่งแวดล้อม
ด้วยคุณสมบัติที่หลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อการเพาะปลูกดังกล่าวมาข้างต้น ทำให้ฮิวมิคได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่เกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิต ปรับปรุงคุณภาพดิน และลดการใช้สารเคมีในการเกษตร
อ่าน:118
ลำไยไทยราคาพุ่ง เกษตรกรยิ้มรับทรัพย์
สวัสดีค่ะ! วันนี้เรามีข่าวดีสำหรับเกษตรกรชาวสวนลำไยมาฝากค่ะ
ตอนนี้ราคาลำไยไทยกำลัง พุ่งสูงขึ้น อย่างต่อเนื่องค่ะ โดยเฉพาะผลผลิตจากภาคเหนือที่มีคุณภาพสูง กำลังได้รับความนิยมจากตลาดส่งออก ทั้งจีนและประเทศในแถบเอเชียค่ะ
ราคาลำไยสดเกรด A ตอนนี้สูงถึง 30-40 บาทต่อกิโลกรัม แล้วนะคะ ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วเกือบ 15% ส่งผลให้เกษตรกรในพื้นที่เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง มีกำลังใจในการดูแลสวนมากขึ้นค่ะ
นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีแผนช่วยสนับสนุนการส่งออกลำไยให้เข้าถึงตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้มาตรการขนส่งแบบควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาคุณภาพของผลไม้ไทยค่ะ
นี่ถือเป็นช่วงเวลาทองของลำไยไทยที่ไม่ควรพลาดเลยค่ะ ถ้ารักษาคุณภาพและมาตรฐานนี้ไว้ เชื่อว่าลำไยไทยจะครองใจตลาดโลกไปอีกนานค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามข่าวเกษตรดี ๆ กับเรานะคะ แล้วพบกันใหม่ค่ะ สวัสดีค่ะ!
อ่าน:182
สถานการณ์ทุเรียนไทยปี 2568: โอกาสทางการค้าและปัญหาภายในประเทศที่ต้องจับตา
ในปี 2568 ทุเรียนไทยยังคงเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่มีความสำคัญทั้งในด้านการส่งออกและตลาดภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม ปีนี้ถือเป็นอีกปีที่มีความท้าทายไม่น้อย ทั้งด้านปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น การแข่งขันจากต่างประเทศ รวมถึงปัญหาหลายประการภายในประเทศที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ
## 📈 ปริมาณผลผลิตเพิ่มสูง – โอกาสและความท้าทาย
ภาคตะวันออกของไทยคาดว่าจะมีผลผลิตทุเรียนออกสู่ตลาดประมาณ 1_045_410 ตัน เพิ่มขึ้นถึง 56.89% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากสภาพอากาศที่เหมาะสมและการขยายพื้นที่ปลูกที่ต่อเนื่อง
แม้จะดูเป็นโอกาสที่ดี แต่การมีผลผลิตจำนวนมากอาจนำไปสู่ “ภาวะผลผลิตล้นตลาด” หากการกระจายผลผลิตไม่ดีพอ หรือเกิดอุปสรรคในการส่งออก โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างจีน
## ปัญหาการส่งออก: สารตกค้าง-การแข่งขันสูง
ในช่วงต้นปี 2568 มีกรณีพบสารย้อมสี Basic Yellow 2 (BY2) ในทุเรียนส่งออกไปยังประเทศจีน ทำให้ทางการจีนเข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าอย่างมาก ซึ่งรัฐบาลไทยได้เร่งออกมาตรการควบคุม เช่น การตรวจสารตกค้าง การสุ่มตรวจสวน และสร้างระบบ QR Traceability เพื่อความโปร่งใส
นอกจากนั้น ไทยยังเผชิญการแข่งขันจากผู้ส่งออกรายอื่น เช่น มาเลเซียและเวียดนาม ซึ่งสามารถส่งทุเรียนพันธุ์ดีในราคาที่แข่งขันได้ โดยคาดว่าการแข่งขันนี้อาจส่งผลกระทบต่อรายได้ส่งออกทุเรียนไทยประมาณ 1.7-5.7 หมื่นล้านบาทในช่วงปี 2568-2573
## 🧩 ปัญหาทุเรียนภายในประเทศ: ความท้าทายที่ต้องร่วมกันแก้
แม้การส่งออกจะมีความสำคัญ แต่ปัญหาภายในประเทศก็เป็นสิ่งที่ต้องจับตาเช่นกัน:
### 1. ราคาตกจากผลผลิตล้นตลาด
ผลผลิตทุเรียนจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกันอาจทำให้ราคาหน้าสวนตกลงอย่างหนัก โดยเฉพาะหากทุเรียนบางส่วนสุกเกินหรือเสียหายจากการจัดเก็บไม่เหมาะสม
### 2. การใช้สารเคมีไม่เหมาะสม
บางพื้นที่มีการใช้สารเร่งการสุกหรือสารตกแต่งเปลือก เช่น การย้อมสี ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และกระทบต่อภาพลักษณ์ของทุเรียนไทยทั้งในและต่างประเทศ
### 3. ระบบขนส่งและกระจายสินค้าไม่ทั่วถึง
ยังขาดแคลนระบบขนส่งห้องเย็น คลังพักผลไม้ที่ทันสมัย หรือศูนย์กลางกระจายสินค้าในบางจังหวัด ส่งผลให้ทุเรียนบางล็อตเสียหายก่อนถึงตลาดปลายทาง
### 4. ปัญหาการปลอมแปลงสายพันธุ์
มีการร้องเรียนจากผู้บริโภคในประเทศว่า ทุเรียนที่ซื้อไม่ตรงสายพันธุ์ที่ระบุ เช่น ซื้อมูซังคิงแต่ได้หมอนทอง หรือขายทุเรียนอ่อนเป็นทุเรียนแก่
### 5. ขาดแคลนแรงงานเก็บเกี่ยว
หลายพื้นที่เผชิญปัญหาแรงงานไม่เพียงพอในช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ทำให้ผลผลิตหล่นเสียหาย หรือเก็บไม่ทัน
### 6. ความเสี่ยงจากสภาพอากาศ
ฝนที่ตกผิดฤดู ลมพายุ หรือภาวะแห้งแล้ง ล้วนส่งผลกระทบต่อคุณภาพและปริมาณของผลผลิต
## 🔎 ทางออกและแนวโน้มในอนาคต
แม้จะมีปัญหาและความท้าทายหลายด้าน แต่ทุเรียนไทยยังคงมีศักยภาพในตลาดโลก โดยเฉพาะหากเกษตรกรสามารถผลิตทุเรียนคุณภาพสูง ปลอดสาร และปฏิบัติตามมาตรฐานสากลอย่างเคร่งครัด
การพัฒนาเทคโนโลยีการเก็บเกี่ยว การแปรรูป และระบบโลจิสติกส์ รวมถึงการส่งเสริมตลาดภายในประเทศให้เข้มแข็ง จะเป็นหัวใจสำคัญในการสร้างเสถียรภาพระยะยาวให้กับ “ราชาแห่งผลไม้” ของไทย
---
# ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตทุเรียน ด้วย ฮิวมิค FK
## ✔️ **Value-Oriented (ให้คุณค่า): ปลูกทุเรียนให้คุ้มค่าทุกต้นทุน**
ในยุคที่ต้นทุนเกษตรเพิ่มสูง ทั้งปุ๋ยเคมี ค่าแรง และค่าขนส่ง การเลือกใช้ **ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของดินและรากต้นทุเรียน** จึงเป็นทางออกที่คุ้มค่า
**ฮิวมิค FK** คือสารปรับปรุงดินที่มีส่วนผสมของฮิวมิก แอซิด จากธรรมชาติ ช่วยเสริมสร้างโครงสร้างดินให้ร่วนซุย อุ้มน้ำดี รากเดินลึก พร้อมรับสารอาหารได้อย่างเต็มที่
🌿 **ผลลัพธ์ที่เกษตรกรทุเรียนหลายรายยืนยัน:**
- ลดต้นทุนปุ๋ยเคมีลงได้กว่า 30%
- ทุเรียนติดลูกดี ต้นไม่โทรมหลังให้ผลผลิต
- ดินฟื้นตัวไว หลังเจอฝนตกหนักหรือน้ำท่วม
---
## ✔️ **Personalization (ตอบโจทย์เฉพาะกลุ่ม): สำหรับเกษตรกรทุเรียนโดยเฉพาะ**
ไม่ว่าคุณจะปลูก **หมอนทอง_ ชะนี_ พวงมณี หรือก้านยาว** – ฮิวมิค FK ก็สามารถปรับสูตรการใช้ให้เหมาะสมกับ:
- **ช่วงอายุของต้น:** ตั้งแต่ลงปลูกใหม่ – ผลผลิตปีที่ 10
- **สภาพดิน:** ดินเหนียว ดินทราย ดินลูกรัง
- **ฤดูกาลและเป้าหมาย:** เร่งฟื้นต้น – เร่งราก – เพิ่มขนาดผล
📌 ตัวอย่างการใช้:
- *ต้นเล็ก:* 10กรัม หรือประมาณ 1 ช้องแกง ต่อน้ำ 20 ลิตร ราดโคนเดือนละ 1-2 ครั้ง
- *ต้นให้ผลผลิต:* ใช้ร่วมกับปุ๋ยเกล็ด/ปุ๋ยอินทรีย์ กระตุ้นการกินปุ๋ย ดูดซึมไวขึ้น
---
ฮิวมิคFK เป็นหนึ่งในสินค้าขายดี จากฟาร์มเกษตร ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และใช้ได้ผลกับพืชทุกชนิด
---
## 🔚 สรุป: ทางเลือกใหม่ของเกษตรกรทุเรียนยุคใหม่
✅ ลดต้นทุน ✔️ เพิ่มผลผลิต
✅ บำรุงดิน ✔️ ฟื้นฟูราก
✅ ใช้คู่กับปุ๋ยเดิมได้ ไม่ต้องเปลี่ยนระบบ
อ่าน:493
อัปเดตสถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 2568: ผลผลิตเพิ่ม มาตรการรัฐคุมราคา และแนวโน้มตลาดโลก
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจสำคัญของไทยที่มีบทบาทในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และพลังงานชีวภาพ ล่าสุด สถานการณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปี **2568** มีแนวโน้มที่น่าจับตามอง ตั้งแต่การคาดการณ์ผลผลิต ราคาตลาด ไปจนถึงมาตรการที่ภาครัฐออกมาเพื่อควบคุมและรักษาเสถียรภาพ วันนี้เรามาอัปเดตสถานการณ์ล่าสุดกัน
---
### **📌 ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2568 คาดแตะ 5.2 ล้านตัน**
ด้วยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและการพัฒนาเทคนิคการเพาะปลูกที่มีประสิทธิภาพ **กระทรวงเกษตรและสหกรณ์คาดการณ์ว่า ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในปี 2568 จะเพิ่มขึ้นเป็น 5.2 ล้านตัน** ซึ่งมากกว่าปี 2567 ที่อยู่ที่ 5 ล้านตัน
ปัจจัยที่ช่วยให้ผลผลิตเพิ่มขึ้น ได้แก่
✅ **การใช้เมล็ดพันธุ์คุณภาพสูง** ที่ให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น
✅ **การบริหารจัดการน้ำและปุ๋ยอย่างมีประสิทธิภาพ** เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต
✅ **สภาพอากาศที่เอื้ออำนวย** ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตได้ดี
---
### **📌 มาตรการรัฐ: คุมราคาข้าวโพด – ลดต้นทุนเกษตรกร**
คณะรัฐมนตรีอนุมัติมาตรการ **รักษาเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2568** ด้วยงบประมาณกว่า **70 ล้านบาท** เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ได้รับราคาที่เป็นธรรม รวมถึงป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาด
นอกจากนี้ กรมการค้าภายในยังมีแผน **เปิดจุดรับซื้อข้าวโพด** เพิ่มขึ้นในหลายจังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่ **ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ** ซึ่งเป็นแหล่งปลูกหลัก
---
### **📌 จีนเดินหน้านำเข้าข้าวโพด GMO ไทยปรับกลยุทธ์อย่างไร?**
จีนยังคงเดินหน้า **อนุมัติและนำเข้าข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม (GMO)** ซึ่งอาจทำให้ราคาข้าวโพดในตลาดโลกปรับตัวขึ้นลงตามอุปสงค์และอุปทาน
อย่างไรก็ตาม **ข้าวโพดไทยที่ไม่ใช่ GMO ยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดพรีเมียม เช่น ญี่ปุ่น และยุโรป** ซึ่งมุ่งเน้นเรื่องความปลอดภัยทางอาหาร ทำให้ไทยสามารถรักษาตลาดในกลุ่มประเทศเหล่านี้ได้
---
### **📌 ลดฝุ่น PM2.5! รัฐเข้มมาตรการห้ามเผาข้าวโพด**
ในปี 2568 รัฐบาลมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้นในการ **ลดฝุ่น PM2.5** โดยกำหนดให้ **ห้ามนำเข้าข้าวโพดจากแหล่งที่มีการเผา** ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดมลพิษทางอากาศ
มาตรการนี้จะช่วยให้
✅ เกษตรกรปรับเปลี่ยนไปใช้ **แนวทางการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม**
✅ ตลาดข้าวโพดไทยได้รับความเชื่อถือในระดับสากล
✅ ลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนจากมลพิษฝุ่นละออง
---
### **📌 สรุปแนวโน้มตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปี 2568**
✔ **ผลผลิตเพิ่มขึ้น** คาดแตะ 5.2 ล้านตัน
✔ **รัฐเข้มมาตรการคุมราคา** สนับสนุนเกษตรกรผ่านจุดรับซื้อ
✔ **การแข่งขันสูงจากข้าวโพด GMO ของจีน** ไทยยังคงรักษาตลาดพรีเมียม
✔ **มาตรการลดฝุ่น PM2.5 เข้มขึ้น** ส่งเสริมเกษตรกรปลูกข้าวโพดอย่างยั่งยืน
### **ฮิวมิค FK: ตัวช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ลดต้นทุน ปรับปรุงดิน เพื่อเกษตรกรยุคใหม่** 🌽🌱
ปัจจุบัน **เกษตรกรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์** ต้องเผชิญกับหลายความท้าทาย ทั้งเรื่อง **ต้นทุนปุ๋ยที่สูงขึ้น ดินเสื่อมคุณภาพ และความผันผวนของตลาด** ในปี **2568** ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของไทยคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น **5.2 ล้านตัน** แต่ **หากไม่มีการจัดการดินที่ดี** อาจส่งผลให้ผลผลิตไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
**ฮิวมิค FK** จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ **ช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนปุ๋ยเคมี และฟื้นฟูดินให้มีความสมบูรณ์** พร้อมช่วยให้เกษตรกรปรับตัวเข้าสู่แนวทางเกษตรกรรมที่ยั่งยืน
---
## **✔️ Value-Oriented: ฮิวมิค FK ให้คุณค่าอะไรกับเกษตรกรข้าวโพด?**
### ✅ **1. เพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้สูงขึ้น 20-30%**
- ฮิวมิคช่วยให้ **รากแข็งแรง** และ **ดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น**
- ข้าวโพดเจริญเติบโตเร็วขึ้น เมล็ดเต็มและสมบูรณ์
### ✅ **2. ลดต้นทุนปุ๋ยเคมี ใช้ได้น้อยลงแต่ได้ผลดีขึ้น**
- ฮิวมิคช่วย **ตรึงปุ๋ยในดิน** ทำให้พืชดูดซึมได้อย่างเต็มที่
- ลดการใช้ปุ๋ยเคมีได้ **15-30%** โดยไม่ลดผลผลิต
### ✅ **3. ปรับปรุงโครงสร้างดิน แก้ปัญหาดินเสื่อมสภาพ**
- เพิ่ม **อินทรียวัตถุในดิน** ทำให้ดินร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดี
- เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มี **ปัญหาดินแข็ง ดินแน่น หรือดินเสื่อมโทรม**
### ✅ **4. ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อม และการเผาตอซังที่ก่อให้เกิด PM2.5**
- ทำให้ซากพืชย่อยสลายเร็วขึ้น **ไม่ต้องเผา ลดฝุ่นควัน**
- สนับสนุนแนวทางเกษตรอินทรีย์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
---
## **✔️ Personalization: ฮิวมิค FK ตอบโจทย์เกษตรกรข้าวโพดแต่ละแบบได้อย่างไร?**
📌 **สำหรับเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มผลผลิต**
- ใช้ **ฮิวมิค FK** ร่วมกับปุ๋ยเคมี จะช่วยให้ข้าวโพดออกฝักใหญ่ น้ำหนักดี
- ลดความเสี่ยงจาก **ดินเสื่อมและธาตุอาหารขาดแคลน**
📌 **สำหรับเกษตรกรที่ต้องการลดต้นทุน**
- ใช้ฮิวมิค FK **ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี** และทำให้พืชดูดซึมธาตุอาหารได้เต็มที่
- ลดต้นทุนระยะยาว โดยไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีมากเกินไป
📌 **สำหรับเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์หรือเกษตรยั่งยืน**
- ฮิวมิค FK **เป็นสารอินทรีย์ 100%** ไม่มีสารเคมีตกค้าง
- ช่วยปรับปรุงดินให้สมบูรณ์ โดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี
📌 **สำหรับเกษตรกรที่มีปัญหาดินแข็ง หรือดินเสื่อมคุณภาพ**
- ฮิวมิคช่วย **ฟื้นฟูดิน เพิ่มอินทรียวัตถุ** ให้ดินร่วนซุย เหมาะสำหรับการปลูกพืชระยะยาว
---
## **✔️ Authority: ฮิวมิคFK สำคัญอย่างไร**
- งานวิจัยหลายฉบับระบุว่า **ฮิวมิคแอซิด และฟลูวิค ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุอาหาร และกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืช**
- **ผลผลิตเพิ่มขึ้น ต้นทุนปุ๋ยลดลง** และดินดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
🌍 **ช่วยสนับสนุนนโยบายภาครัฐเรื่อง PM2.5 และเกษตรยั่งยืน**
- รัฐบาลส่งเสริม **การใช้ปุ๋ยอินทรีย์และลดการเผาตอซัง**
- การใช้ฮิวมิค FK ช่วยลดมลพิษ **และทำให้ดินดีขึ้นในระยะยาว**
---
## **📌 วิธีใช้ฮิวมิค FK กับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์**
📍 **ระยะเตรียมดิน:** ผสมฮิวมิค FK กับปุ๋ยอินทรีย์ หรือโรยลงดินก่อนปลูก
📍 **ระยะต้นกล้า (1-2 สัปดาห์แรก):** ฉีดพ่นทางใบ เพื่อกระตุ้นการแตกราก
📍 **ระยะขยายต้น:** ผสมฮิวมิค FK กับน้ำแล้วราดโคนต้น เพื่อช่วยดูดซึมธาตุอาหาร
📍 **ระยะออกฝัก:** ใช้ฮิวมิค FK ควบคู่กับปุ๋ยสูตร 15-15-15 เพื่อเพิ่มคุณภาพและขนาดฝัก
---
## **📌 สรุป: ฮิวมิค FK คือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเกษตรกรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์**
✅ **เพิ่มผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 20-30%**
✅ **ช่วยให้ดินอุ้มน้ำและดูดซึมธาตุอาหารได้ดีขึ้น**
✅ **ลดการใช้ปุ๋ยเคมี ประหยัดต้นทุนระยะยาว**
✅ **ช่วยลดปัญหาดินเสื่อม ดินแข็ง และเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน**
✅ **เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลดฝุ่น PM2.5**
ปรุงดิน เพิ่มผลผลิตข้าวโพดของคุณ ด้วย "ฮิวมิค FK" วันนี้!** 🌱✨
อ่าน:565
3589 เรื่อง หน้าละ 10 รายการ 358 หน้า, หน้าที่ 359 มี 9 รายการ
|
-Page 1 of 359
-|
1
|
2
|
3
|
4
|
5
|
6
|
7
|
8
|
9
|
10
|
11
|
12
|
13
|
14
|
15
|
16
|
17
|
18
|
19
|
20
|
21
|
22
|
23
|
24
|
25
|
26
|
27
|
28
|
29
|
30
|
31
|
32
|
33
|
34
|
35
|
36
|
37
|
38
|
39
|
40
|
41
|
42
|
43
|
44
|
45
|
46
|
47
|
48
|
49
|
50
|
51
|
52
|
53
|
54
|
55
|
56
|
57
|
58
|
59
|
60
|
61
|
62
|
63
|
64
|
65
|
66
|
67
|
68
|
69
|
70
|
71
|
72
|
73
|
74
|
75
|
76
|
77
|
78
|
79
|
80
|
81
|
82
|
83
|
84
|
85
|
86
|
87
|
88
|
89
|
90
|
91
|
92
|
93
|
94
|
95
|
96
|
97
|
98
|
99
|
100
|
101
|
102
|
103
|
104
|
105
|
106
|
107
|
108
|
109
|
110
|
111
|
112
|
113
|
114
|
115
|
116
|
117
|
118
|
119
|
120
|
121
|
122
|
123
|
124
|
125
|
126
|
127
|
128
|
129
|
130
|
131
|
132
|
133
|
134
|
135
|
136
|
137
|
138
|
139
|
140
|
141
|
142
|
143
|
144
|
145
|
146
|
147
|
148
|
149
|
150
|
151
|
152
|
153
|
154
|
155
|
156
|
157
|
158
|
159
|
160
|
161
|
162
|
163
|
164
|
165
|
166
|
167
|
168
|
169
|
170
|
171
|
172
|
173
|
174
|
175
|
176
|
177
|
178
|
179
|
180
|
181
|
182
|
183
|
184
|
185
|
186
|
187
|
188
|
189
|
190
|
191
|
192
|
193
|
194
|
195
|
196
|
197
|
198
|
199
|
200
|
201
|
202
|
203
|
204
|
205
|
206
|
207
|
208
|
209
|
210
|
211
|
212
|
213
|
214
|
215
|
216
|
217
|
218
|
219
|
220
|
221
|
222
|
223
|
224
|
225
|
226
|
227
|
228
|
229
|
230
|
231
|
232
|
233
|
234
|
235
|
236
|
237
|
238
|
239
|
240
|
241
|
242
|
243
|
244
|
245
|
246
|
247
|
248
|
249
|
250
|
251
|
252
|
253
|
254
|
255
|
256
|
257
|
258
|
259
|
260
|
261
|
262
|
263
|
264
|
265
|
266
|
267
|
268
|
269
|
270
|
271
|
272
|
273
|
274
|
275
|
276
|
277
|
278
|
279
|
280
|
281
|
282
|
283
|
284
|
285
|
286
|
287
|
288
|
289
|
290
|
291
|
292
|
293
|
294
|
295
|
296
|
297
|
298
|
299
|
300
|
301
|
302
|
303
|
304
|
305
|
306
|
307
|
308
|
309
|
310
|
311
|
312
|
313
|
314
|
315
|
316
|
317
|
318
|
319
|
320
|
321
|
322
|
323
|
324
|
325
|
326
|
327
|
328
|
329
|
330
|
331
|
332
|
333
|
334
|
335
|
336
|
337
|
338
|
339
|
340
|
341
|
342
|
343
|
344
|
345
|
346
|
347
|
348
|
349
|
350
|
351
|
352
|
353
|
354
|
355
|
356
|
357
|
358
|
359
|
🌱 แอพเกษตร FK
🌱
แอพFKผสมปุ๋ย
▶
🛒
เลือกซื้อปุ๋ยยาฯจาก FK
▶
🐛
แอพFKเช็คปุ๋ยยาฯคู่นี้ผสมกันได้ไหม
▶
💧
แอพFKแปลงอัตราผสมปุ๋ยยาฯฉีดพ่น
▶
🔮
แอพFKพยากรณ์โรคและศัตรูพืช
▶
🍃
แอพFKตรวจพืชเป็นโรคอะไร
▶
🏦
แอพFKคำนวณเงินกู้ ธกส.
▶
💰
แอพFKคำนวณทุนกำไรปลูกพืช
▶
📅
แอพFKเดือนไหนปลูกผักอะไรได้
▶
⚖️
แอพFKแปลงหน่วยเกษตร
▶
📋
แนะนำปุ๋ยยาปราบฯ
▶
📦
ส่งของที่ฉันสั่งหรือยัง
▶
🌐
เว็บไซต์ฟาร์มเกษตร
▶
📻
ฟังวิทยุทั่วโลก
▶
โทรศัพท์
📞 090-592-8614
ไลน์ไอดี
💬 @FarmKaset
🌾 ผลิตภัณฑ์เกษตรครบวงจร 🌾
จากเริ่มปลูก สู่การเก็บเกี่ยว ด้วยสินค้าคุณภาพ
🌱 ขั้นตอนที่ 1: เริ่มต้นและเร่งการเจริญเติบโต
สำหรับพืชที่เพิ่งปลูกหรือต้องการเร่งโต เร่งราก เร่งใบเขียว
🎯 เป้าหมายขั้นตอนนี้
ช่วยให้พืชมีรากแข็งแรง ใบเขียวแกร่ง และเติบโตเร็ว เป็นฐานที่ดีสำหรับการพัฒนาในขั้นตอนต่อไป
⭐ เอฟเค-1 (FK-1) - ตัวหลักเริ่มต้น
สูตรพิเศษสำหรับการเริ่มต้น ฟื้นฟูพืชที่อ่อนแอ เร่งการเจริญเติบโต เร่งระบบราก และกระตุ้นการออกดอก
✨ ประโยชน์เด่น:
• เร่งโต เร่งใบเขียว เร่งราก
• ฟื้นฟูพืชที่เสียหาย
• เร่งดอก เหมาะสำหรับทุกพืช
💰 1กล่อง (2กิโลกรัม) ราคา : 890 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-1:
Lazada
Shopee
📱 ช่องทางอื่น:
TikTok
Line
+
🚀 สตาร์เฟอร์ 30-20-5 + ฮิวมิคFK - เร่งต้น เร่งใบ
สูตรไนโตรเจนสูง เหมาะสำหรับช่วงต้นของการเจริญเติบโต เร่งใบเขียว เร่งต้นแข็งแรง
✨ ประโยชน์เด่น:
• ไนโตรเจนสูง เร่งใบเขียวเข้ม
• เร่งการเจริญเติบโตในช่วงแรก
• ผสมสูตรเองได้ตามต้องการ
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคแอซิดช่วยเพิ่มการดูดซับไนโตรเจนได้ 2-3 เท่า ทำให้ใบเขียวเข้มและโตเร็วกว่าปกติ ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้ทุกครั้ง
💰 สตาร์เฟอร์: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อสตาร์เฟอร์:
Lazada
Shopee
🛒 สั่งซื้อฮิวมิค:
Lazada
Shopee
💎 ฮิวมิคFK - ตัวช่วยเสริมพื้นฐาน
สารฮิวมิคแอซิดธรรมชาติ เพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับปุ๋ย ปรับปรุงดิน ทำให้พืชแข็งแรงขึ้น
✨ ประโยชน์เด่น:
• เพิ่มการดูดซับปุ๋ย 2-3 เท่า
• ปรับปรุงโครงสร้างดิน
• ใช้ได้ทุกพืช ผสมกับปุ๋ยอื่นได้
💰 ขนาด 500g: 190 บาท | 1kg: 250 บาท
💧 1kg ผสมน้ำได้ถึง 2,000 ลิตร
🛒 สั่งซื้อฮิวมิค:
Lazada
Shopee
📱 ช่องทางอื่น:
TikTok
Line
🌸 ขั้นตอนที่ 2: เร่งดอก เร่งผล และเพิ่มผลผลิต
เมื่อพืชโตแข็งแรงแล้ว ก็ถึงเวลาเพิ่มขนาดผล น้ำหนัก และคุณภาพ
🎯 เป้าหมายขั้นตอนนี้
กระตุ้นการออกดอก ขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก และปรับปรุงคุณภาพผลผลิต เพื่อผลตอบแทนสูงสุด
+
🌺 สตาร์เฟอร์ 10-40-10 + ฮิวมิคFK - เร่งราก เร่งดอก
สูตรฟอสฟอรัสสูง เหมาะสำหรับช่วงเร่งดอก ช่วยให้รากแข็งแรง ดอกออกเยอะ คุณภาพดี
✨ ประโยชน์เด่น:
• ฟอสฟอรัสสูง เร่งดอก เร่งราก
• เพิ่มการติดผล ลดการร่วง
• เสริมความแข็งแรงของราก
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยให้ฟอสฟอรัสถูกดูดซับง่ายขึ้น เร่งการเจริญเติบโตของราก และกระตุ้นการออกดอกได้ดีกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 สตาร์เฟอร์: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อสตาร์เฟอร์:
Lazada
Shopee
⭐ FK-3 - ขยายผล เพิ่มน้ำหนัก (สำหรับผลไม้)
สูตรเฉพาะสำหรับพืชออกผล ช่วยขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก และปรับปรุงคุณภาพผลผลิต
✨ ประโยชน์เด่น:
• ขยายขนาดผลไม้ เพิ่มน้ำหนัก
• เพิ่มความหวาน ปรับปรุงรสชาติ
• ใช้ได้กับผลไม้ทุกชนิด
💰 1ชุด (2กิโลกรัม) ราคา : 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3:
Lazada
Shopee
📱 ช่องทางอื่น:
TikTok
Line
+
🍯 สตาร์เฟอร์ 15-5-30 + ฮิวมิคFK - เพิ่มผลผลิต เร่งแป้ง
สูตรโพแทสเซียมสูง เร่งการสร้างแป้ง น้ำตาล ขยายขนาดผล เหมาะสำหรับช่วงเก็บเกี่ยว
✨ ประโยชน์เด่น:
• โพแทสเซียมสูง เร่งแป้ง สร้างน้ำตาล
• ขยายขนาดผล เพิ่มน้ำหนัก
• ปรับปรุงคุณภาพและรสชาติ
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยส่งโพแทสเซียมเข้าสู่ผลได้เร็วขึ้น เพิ่มความหวาน แป้ง และน้ำหนักผลมากกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้ทุกครั้ง
💰 สตาร์เฟอร์: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อสตาร์เฟอร์:
Lazada
Shopee
🌾 ขั้นตอนที่ 3: สูตรเฉพาะทางสำหรับพืชเศรษฐกิจ
สูตรพิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผลไม้ ข้าว อ้อย และมันสำปะหลัง
🎯 เป้าหมายขั้นตอนนี้
ใช้สูตรที่ปรับแต่งมาเฉพาะสำหรับพืชแต่ละชนิด เพื่อผลผลิตและคุณภาพที่ดีที่สุด รวมถึงการใช้ FK-1 ร่วมด้วย
+
🍇 FK-1 + FK-3 - สำหรับผลไม้ทุกชนิด
ชุดคู่สำหรับผลไม้ทุกชนิด เริ่มด้วย FK-1 เพื่อฟื้นฟูและเร่งโต ตามด้วย FK-3 เพื่อขยายผลและเพิ่มน้ำหนัก
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต เร่งใบเขียว เร่งราก
• FK-3: ขยายผล เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มความหวาน
• เหมาะกับผลไม้ทุกชนิด
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: ใช้หลังปลูก 1-4 สัปดาห์ และเมื่อต้องการฟื้นฟูพืช
FK-3: ใช้เมื่อผลเริ่มติด ช่วงผลอ่อน ก่อนเก็บเกี่ยว 2-4 สัปดาห์
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-1:
Lazada
Shopee
🛒 สั่งซื้อ FK-3:
Lazada
Shopee
+
🌾 FK-1 + FK-3R - เฉพาะสำหรับข้าว (Rice)
ชุดคู่สำหรับข้าว เริ่มด้วย FK-1 เพื่อเร่งโตและแข็งแรง ตามด้วย FK-3R เพื่อรวงยาว เมล็ดเต็ม
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต เร่งใบเขียว เร่งแตกกอ
• FK-3R: รวงยาว เมล็ดเต็ม น้ำหนัก 1,000 เมล็ดสูง
• เพิ่มผลผลิตต่อไร่
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: หลังหว่าน 15-45 วัน และเมื่อข้าวใบเหลือง
FK-3R: ช่วงตั้งท้อง ออกรวง และก่อนข้าวสุก 2-3 สัปดาห์
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3R: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3R:
Lazada
Shopee
+
🎯 FK-1 + FK-3S - เฉพาะสำหรับอ้อย (Sugarcane)
ชุดคู่สำหรับอ้อย เริ่มด้วย FK-1 เพื่อเร่งโตและแตกหน่อ ตามด้วย FK-3S เพื่อลำสูง ความหวาน CCS สูง
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต เร่งแตกหน่อ ลำแข็งแรง
• FK-3S: ลำสูง ปล้องยาว เพิ่มค่า CCS
• น้ำหนักต่อลำเพิ่มขึ้น
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: หลังปลูก 1-3 เดือน และเมื่ออ้อยใบเหลือง
FK-3S: อายุ 6-10 เดือน และก่อนตัด 2-3 เดือน
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3S: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3S:
Lazada
Shopee
+
🥔 FK-1 + FK-3C - เฉพาะสำหรับมันสำปะหลัง (Cassava)
ชุดคู่สำหรับมันสำปะหลัง เริ่มด้วย FK-1 เพื่อต้นแข็งแรง ตามด้วย FK-3C เพื่อหัวมันดก โตใหญ่ แป้งสูง
✨ ประโยชน์คู่:
• FK-1: เร่งโต ต้นแข็งแรง ทนแล้ง
• FK-3C: หัวมันดก โตใหญ่ เปอร์เซ็นต์แป้งสูง
• น้ำหนักต่อต้นเพิ่มขึ้นมาก
⏰ ช่วงเวลาการใช้:
FK-1: หลังปลูก 1-4 เดือน และเมื่อมันใบเหลือง
FK-3C: อายุ 6-10 เดือน และก่อนขุด 2-3 เดือน
💰 FK-1: 890 บาท | FK-3C: 950 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-3C:
Lazada
Shopee
🛡️ ขั้นตอนที่ 4: ป้องกันและกำจัดศัตรูพืช
ป้องกันโรคพืช แมลงศัตรูพืช และวัชพืช เพื่อผลผลิตที่สมบูรณ์
+
🐛 ไทอะมีทอกแซม + ฮิวมิคFK - กำจัดแมลงปากดูด
สารอินทรีย์ป้องกันกำจัดเพลี้ยทุกชนิด แมลงปากดูด หนอนชอนใบ และโล่ปลาดาว
✨ ป้องกันศัตรูพืช:
• เพลี้ยไฟ เพลี้ยแป้ง เพลี้ยไก่แจ้
• แมลงปากดูดทุกชนิด
• หนอนชอนใบ โล่ปลาดาว
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการติดผิวใบ ทำให้สารกำจัดแมลงทำงานได้นานขึ้น และช่วยฟื้นฟูพืชหลังถูกแมลงทำลาย ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 ไทอะมีทอกแซม 100g: 69 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อไทอะมีทอกแซม:
Lazada
Shopee
+
🍄 แพนน่อน + ฮิวมิคFK - กำจัดโรคเชื้อรา
สารป้องกันกำจัดโรคพืชจากเชื้อราหลายชนิด เหมาะสำหรับทุกพืช ใช้ได้ตลอดปี
✨ ป้องกันโรคพืช:
• ใบไหม้ ใบจุด ใบติด กิ่งแห้ง
• ราน้ำค้าง ราสนิม ไปทอปธอร่า
• แอนแทรคโนส กุ้งแห้ง
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเสริมความแข็งแรงให้พืช ทำให้ต้านทานโรคได้ดีขึ้น และช่วยฟื้นฟูพืชที่เสียหายจากโรคเร็วกว่า ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 แพนน่อน 1kg: 390 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อแพนน่อน:
Lazada
Shopee
+
⚡ อินเวท + ฮิวมิคFK - เคมีกำจัดเพลี้ยแรงแล้ว
สารเคมีประสิทธิภาพสูง กำจัดเพลี้ยทุกชนิด ใช้ได้ทุกพืช สำหรับการระบาดหนัก
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยลดความเครียดของพืชจากสารเคมี และช่วยฟื้นฟูพืชหลังการฉีดพ่นให้แข็งแรงเร็วขึ้น ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 อินเวท: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้ออินเวท:
Lazada
Shopee
+
💚 แม็กซ่า + ฮิวมิคFK - สร้างภูมิต้านทาน
สารสังเคราะห์คลอโรฟิลล์ ประกอบด้วยแมกนีเซียม ซิงค์ เร่งเขียว สร้างภูมิต้านทานโรค
✨ ประโยชน์เด่น:
• เร่งใบเขียวเข้ม เพิ่มคลอโรฟิลล์
• สร้างภูมิต้านทานโรค
• เสริมแมกนีเซียม ซิงค์
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มการดูดซับแมกนีเซียมและซิงค์ ทำให้ใบเขียวเข้มกว่า และสร้างภูมิต้านทานได้ดีกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 แม็กซ่า: 250 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อแม็กซ่า:
Lazada
Shopee
🎁 ขั้นตอนที่ 5: ชุดโปรโมชั่นสุดคุ้ม
แพ็คเกจคู่ที่ประหยัดและได้ผลดี รวมถึงสินค้ายอดนิยมจาก Lazada
🔥 โปรฯเล็กยอดฮิต - บำรุง + ป้องกัน
ชุดคู่สุดคุ้ม FKT 250cc + ไอเอส 250cc ทั้งบำรุงและป้องกันโรค ในราคาเดียว
✨ ได้ 2 ประโยชน์:
• FK ธรรมชาตินิยม: บำรุงฟื้นฟู
• ไอเอส: ป้องกันโรคราต่างๆ
• ผสมน้ำได้รวม 100 ลิตร
💰 ราคาพิเศษ : 499 บาท
(ปกติ 740 บาท ประหยัด 241 บาท!)
🛒 สั่งซื้อโปรพิเศษ:
Lazada
Shopee
🏆 #1 ขายดี
+
🌟 ไอเอส + ฮิวมิคFK - ยอดขายอันดับ 1 บน Lazada
สินค้าขายดีที่สุดในหมวดโรคพืช ป้องกันกำจัดโรคใบไหม้ โรคราต่างๆ ได้ผลจริง
✨ ทำไมขายดี:
• ได้ผลจริง ราคาไม่แพง
• ป้องกันโรคได้หลายชนิด
• ใช้ง่าย ปลอดภัย
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเสริมภูมิต้านทานธรรมชาติให้พืช ทำให้ป้องกันโรคได้ยาวนานขึ้น และลดการใช้สารเคมีลงได้ ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 ไอเอส 1L: 450 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อไอเอส:
Lazada
Shopee
+
🦗 มาคา + ฮิวมิคFK - กำจัดเพลี้ย แมลงศัตรูพืช
สารอินทรีย์ป้องกันกำจัดเพลี้ย แมลงศัตรูพืช ใช้ได้ทุกพืช ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม
✨ ประโยชน์เด่น:
• กำจัดเพลี้ยทุกชนิด
• แมลงศัตรูพืชต่างๆ
• ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มการติดผิวใบของสารอินทรีย์ ทำให้ได้ผลนานขึ้น และช่วยฟื้นฟูพืชหลังถูกแมลงทำลายเร็วกว่า ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 มาคา 1L: 470 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อมาคา:
Lazada
Shopee
+
🌿 FK ธรรมชาตินิยม + ฮิวมิคFK
ปุ๋ยธรรมชาติ ปลอดภัยต่อผู้ใช้ และผู้บริโภค
✨ ปุ๋ยธรรมชาติ ปลอดภัย:
• พืชทุกชนิด โตไว ใบเขียว ทนแล้ง
• ผลิตภัณฑ์ปลอดภัย
• เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซับธาตุอาหารธรรมชาติ ทำให้พืชแข็งแรงและทนแล้งได้ดีกว่าใช้เดี่ยว ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 FK-T 1L: 890 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อ FK-T:
Lazada
Shopee
+
💊 เมทาแลคซิล + ฮิวมิคFK - เคมีป้องกันโรค ราต่างๆในพืช
สารเคมีประสิทธิภาพสูง ป้องกันกำจัดโรคพืช โรคใบไหม้ ใบจุด ราน้ำค้าง ราสนิม โรคจากเชื้อราทุกชนิด
✨ ประโยชน์เด่น:
• แก้ปัญหาโรครุนแรง
• ได้ผลเร็ว ครอบคลุมโรคหลายชนิด
• สำหรับการระบาดหนัก
💎 เหตุผลที่ใช้คู่กัน:
ฮิวมิคช่วยลดความเครียดจากสารเคมี และเร่งการฟื้นฟูพืชหลังการรักษาโรค ทำให้พืชแข็งแรงเร็วขึ้น ผสมฉีดพ่นพร้อมกันได้
💰 เมทาแลคซิล: 450 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อเมทาแลคซิล:
Lazada
Shopee
📱 ช่องทางอื่น:
TikTok
Line
+
🌿 คาร์รอน + ฮิวมิคFK - กำจัดหญ้า คุมวัชพืช
ยากำจัดหญ้าและวัชพืช ครอบคลุมทั้งใบแคบและใบกว้าง ได้ผลดี ราคาประหยัด
✨ ประโยชน์เด่น:
• กำจัดหญ้าใบแคบ ใบกว้าง
• คุมวัชพืชได้ยาวนาน
• ประหยัด ได้ผลดี
⚠️ หมายเหตุพิเศษ:
หลังฉีดกำจัดวัชพืช ใช้ฮิวมิคช่วยฟื้นฟูดินและเสริมความแข็งแรงให้พืชหลัก ป้องกันการกลับมาของวัชพืช ใช้แยกเวลา 3-7 วันหลังฉีดคาร์รอน
💰 คาร์รอน: 450 บาท | ฮิวมิค 1kg: 250 บาท
🛒 สั่งซื้อคาร์รอน:
Lazada
Shopee
📱 ช่องทางอื่น:
Line
🎯 สรุปขั้นตอนการใช้ผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนแนะนำ:
🌱
เริ่มต้น:
เลือกใช้ FK-1 หรือ สตาร์เฟอร์ 30-20-5 + ฮิวมิคFK
🌸
เร่งดอกผล:
เลือกใช้ FK-3 (หรือ FK-3R/3S/3C) หรือ สตาร์เฟอร์ 10-40-10 + ฮิวมิคFK
🛡️
ป้องกัน:
ไทอะมีทอกแซม หรือ แพนน่อน หรือ แม็กซ่า + ฮิวมิคFK
🍯
เก็บเกี่ยว:
สตาร์เฟอร์ 15-5-30 + ฮิวมิคFK
💎 สำคัญที่สุด:
ใช้ ฮิวมิคFK ผสมกับผลิตภัณฑ์อื่นทุกครั้ง จะได้ผลดีขึ้น 2-3 เท่า
💡
เคล็ดลับ:
เริ่มด้วยโปรโมชั่นขนาดเล็ก → หากได้ผลแล้วค่อยซื้อเพิ่ม
💡 คำแนะนำสำหรับมือใหม่
🔰 แนะนำเริ่มต้น:
โปรฯเล็กยอดฮิต (499 บาท) + ฮิวมิคFK (250 บาท) = ทดลองในงบ 750 บาท
🌾 เกษตรกรข้าว:
FK-1 + FK-3R + ไอเอส + ฮิวมิคFK
🎯 เกษตรกรอ้อย:
FK-1 + FK-3S + แม็กซ่า + ฮิวมิคFK
🥔 เกษตรกรมันฯ:
FK-1 + FK-3C + ฮิวมิคFK
🍇 เกษตรกรผลไม้:
FK-1 + FK-3 + สตาร์เฟอร์ 15-5-30 + ฮิวมิคFK
⚠️ หมายเหตุ:
คาร์รอน ไม่ผสมกับผลิตภัณฑ์อื่น ใช้แยกเวลา แล้วค่อยใช้ฮิวมิคฟื้นฟูพืช
📞 ติดต่อสอบถาม คำแนะนำการใช้
โทรศัพท์
📞 090-592-8614
ไลน์ไอดี
💬 @FarmKaset
🌟 ทีมงานพร้อมให้คำแนะนำการใช้ผลิตภัณฑ์ ปรึกษาปัญหาพืช และแนะนำสูตรที่เหมาะสม
📅 เวลาทำการ: 9:00-17:00 น.
💎
พิเศษ:
ปรึกษาการใช้ ฮิวมิคFK คู่กับผลิตภัณฑ์อื่นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
⏰
คำแนะนำเวลา:
ช่วงเวลาการใช้ FK-1 และ FK-3 ชุดต่างๆ ตามพืชแต่ละชนิด
🌾
FarmKaset
- ผลิตภัณฑ์เกษตรคุณภาพ เพื่อเกษตรกรไทย 🌾
📍
ส่งทั่วประเทศ
🚚
จัดส่งเร็ว
💯
ได้ผลจริง
🏆
ขายดี #1 บน Lazada
💎 จุดเด่นใหม่:
ฮิวมิคFK เพิ่มประสิทธิภาพทุกผลิตภัณฑ์ 2-3 เท่า
© 2025 FarmKaset - สงวนลิขสิทธิ์ | 🔗
ระบบคำนวณการผสมปุ๋ย
iLab.work ผู้ใช้บริการตรวจวิเคราะห์ค่าธาตุอาหารใน ดิน น้ำ ปุ๋ย พืช กากอุตสาหกรรม มาตฐาน ISO/IEC 17025
ตรวจง่ายนับ 1 2 3 มาตฐาน ISO/IEC 17025
1.เลือกและคำนวณค่าตรวจที่หน้าเว็บ
คลิก
2.ส่งดินเข้าห้อง LAB (ไปรษณีย์,เคอรี่,แฟรช)
3.อ่านผลออนไลน์ (เราจัดส่งต้นฉบับผลวิเคราะห์ ไปตามที่อยู่ที่ให้ไว้เช่นกัน)
→เริ่มกันเลย
เลือกค่าที่ต้องการวิเคราะห์
[มีชุดโปรฯแนะนำลดพิเศษ หรือเลือกเองได้]
ปุ๋ยคุณภาพสูง
พืชทุกชนิด
|
ปุ๋ยทุเรียน
|
ปุ๋ยมันสำปะหลัง
|
ปุ๋ยสำหรับไร่อ้อย
|
ปุ๋ยนาข้าว
|
ปุ๋ยยางพารา
|
ปุ๋ยมะพร้าว
|
ปุ๋ยข้าวโพด
|
ปุ๋ยปาล์ม
|
ปุ๋ยสับปะรด
|
ปุ๋ยถั่วเหลือง
|
ปุ๋ยพริกไทย
|
ปุ๋ยกาแฟ
|
ปุ๋ยมะนาว
|
ปุ๋ยส้ม
|
ปุ๋ยลำไย
|
ปุ๋ยลิ้นจี่
|
ปุ๋ยหน่อไม้ฝรั่ง
|
ปุ๋ยกระเจี๊ยบเขียว
|
ปุ๋ยมังคุด
|
ปุ๋ยมันฝรั่ง
|
ปุ๋ยหอมหัวใหญ่
|
ปุ๋ยกระเทียม
|
ปุ๋ยหอมแดง
|
ปุ๋ยมะเขือเทศ
|
ปุ๋ยกล้วยไม้
|
ปุ๋ยอินทผลัม
|
ปุ๋ยน้อยหน่า
|
ปุ๋ยชมพู่
|
ปุ๋ยเงาะ
|
ปุ๋ยมะม่วง
|
ปุ๋ยมะขาม
|
ปุ๋ยพริก
ยาอินทรีย์แก้โรคพืช
โรคใบไหม้
|
ทุเรียนใบติด
|
มันสำปะหลังใบไหม้
|
โรคอ้อยใบไหม้
|
ข้าวใบไหม้
|
ยางพาราใบไหม้
|
โรคมะพร้าวใบไหม้
|
โรคราน้ำค้างข้าวโพด
|
ปาล์มใบไหม้
|
โรคสับปะรด
|
โรคราน้ำค้างถั่วเหลือง
|
พริกไทยใบไหม้
|
โรคกาแฟใบไหม้
|
ราสนิมมะนาว
|
ส้มใบไหม้
|
ลำไยใบไหม้
|
ลิ้นจี่ใบไหม้
|
หน่อไม้ฝรั่งลำต้นไหม้
|
กระเจี๊ยบเขียวฝักลาย
|
โรคใบจุดมังคุด
|
มันฝรั่งใบใหม้
|
โรคหอมเลื้อย
|
โรคใบจุดกระเทียม
|
โรคหอมแดง
|
ราแป้งมะเขือเทศ
|
โรคจุดสนิมกล้วยไม้
|
อินทผลัมใบไหม้
|
น้อยหน่าดอกร่วง
|
ชมพู่ใบไหม้
|
เงาะใบไหม้
|
มะม่วงใบไหม้
|
ราแป้งมะขาม
|
โรคพริก
ยาเคมี กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด
|
เพลี้ยทุเรียน
|
เพลี้ยมันสำปะหลัง
|
เพลี้ยอ้อย
|
เพลี้ยข้าว
|
เพลี้ยยางพารา
|
เพลี้ยมะพร้าว
|
เพลี้ยข้าวโพด
|
เพลี้ยปาล์มน้ำมัน
|
เพลี้ยสับปะรด
|
เพลี้ยถั่วเหลือง
|
เพลี้ยพริกไทย
|
เพลี้ยกาแฟ
|
เพลี้ยมะนาว
|
เพลี้ยส้ม
|
เพลี้ยลำไย
|
เพลี้ยลิ้นจี่
|
เพลี้ยหน่อไม้ฝรั่ง
|
เพลี้ยกระเจี๊ยบเขียว
|
เพลี้ยมังคุด
|
เพลี้ยมันฝรั่ง
|
เพลี้ยหอมหัวใหญ่
|
เพลี้ยกระเทียม
|
เพลี้ยหอมแดง
|
เพลี้ยมะเขือเทศ
|
เพลี้ยกล้วยไม้
|
เพลี้ยอินทผาลัม
|
เพลี้ยน้อยหน่า
|
เพลี้ยชมพู่
|
เพลี้ยเงาะ
|
เพลี้ยมะม่วง
|
เพลี้ยมะขาม
|
เพลี้ยพริก
ยาเคมี กำจัดโรคพืช
โรคใบไหม้
|
โรคทุเรียน
|
โรคมันสำปะหลัง
|
โรคอ้อย
|
โรคข้าว
|
โรคยางพารา
|
โรคมะพร้าว
|
โรคข้าวโพด
|
โรคปาล์ม
|
โรคสับปะรด
|
โรคถั่วเหลือง
|
พริกไทยใบไหม้
|
โรคกาแฟ
|
โรคมะนาว
|
โรคส้ม
|
โรคลำไย
|
โรคลิ้นจี่
|
โรคหน่อไม้ฝรั่ง
|
โรคกระเจี๊ยบเขียว
|
โรคมังคุด
|
โรคมันฝรั่ง
|
โรคหอม
|
โรคกระเทียม
|
โรคหอมแดง
|
โรคมะเขือเทศ
|
โรคกล้วยไม้
|
โรคอินทผาลัม
|
โรคน้อยหน่า
|
โรคชมพู่
|
โรคเงาะ
|
โรคมะม่วง
|
โรคมะขาม
|
โรคพริก
ยาอินทรีย์ กำจัดเพลี้ยต่างๆ
กำจัดเพลี้ยต่างๆทุกชนิด
|
เพลี้ยไก่แจ้ทุเรียน
|
เพลี้ยแป้งมันสำปะหลัง
|
เพลี้ยอ้อย
|
เพลี้ยศัตรูข้าว
|
เพลี้ยแป้งยางพารา
|
เพลี้ยศัตรูมะพร้าว
|
เพลี้ยข้าวโพด
|
เพลี้ยอ่อนปาล์มน้ำมัน
|
เพลี้ยแป้งสับปะรด
|
เพลี้ยอ่อนถั่วเหลือง
|
เพลี้ยแป้งพริกไทย
|
เพลี้ยแป้งกาแฟ
|
เพลี้ยไฟมะนาว
|
เพลี้ยไฟส้ม
|
เพลี้ยแป้งลำไย
|
เพลี้ยแป้งลิ้นจี่
|
เพลี้ยไฟหน่อไม้ฝรั่ง
|
เพลี้ยจักจั่นฝ้ายกระเจี๊ยบเขียว
|
เพลี้ยไฟมังคุด
|
เพลี้ยจักจั่นมันฝรั่ง
|
เพลี้ยไฟหอมหัวใหญ่
|
เพลี้ยไฟกระเทียม
|
เพลี้ยไฟหอมแดง
|
เพลี้ยมะเขือเทศ
|
เพลี้ยไฟกล้วยไม้
|
เพลี้ยแป้งอินทผาลัม
|
เพลี้ยแป้งน้อยหน่า
|
เพลี้ยไฟชมพู่
|
เพลี้ยแป้งเงาะ
|
เพลี้ยจักจั่นมะม่วง
|
เพลี้ยมะขาม
|
เพลี้ยไฟพริก
สารชีวินทรีย์ กำจัดหนอนต่างๆ
กำจัดหนอนศัตรูพืช
|
กำจัดหนอนทุเรียน
|
กำจัดหนอนมันสำปะหลัง
|
กำจัดหนอนกออ้อย
|
กำจัดหนอนในนาข้าว
|
กำจัดหนอนในสวนยางพารา
|
กำจัดหนอนมะพร้าว
|
กำจัดหนอนข้าวโพด
|
กำจัดหนอนปาล์มน้ำมัน
|
กำจัดหนอนสับปะรด
|
กำจัดหนอนถั่วเหลือง
|
กำจัดหนอนพริกไทย
|
กำจัดหนอนกาแฟ
|
กำจัดหนอนมะนาว
|
กำจัดหนอนส้ม
|
กำจัดหนอนลำไย
|
กำจัดหนอนลิ้นจี่
|
กำจัดหนอนหน่อไม้ฝรั่ง
|
กำจัดหนอนกระเจี๊ยบเขียว
|
กำจัดหนอนมังคุด
|
กำจัดหนอนมันฝรั่ง
|
กำจัดหนอนหอมหัวใหญ่
|
กำจัดหนอนกระเทียม
|
กำจัดหนอนหอมแดง
|
กำจัดหนอนมะเขือเทศ
|
กำจัดหนอนกล้วยไม้
|
กำจัดหนอนอินทผาลัม
|
กำจัดหนอนน้อยหน่า
|
กำจัดหนอนชมพู่
|
กำจัดหนอนเงาะ
|
กำจัดหนอนมะม่วง
|
กำจัดหนอนมะขาม
|
กำจัดหนอนพริก
คาดการณ์ ราคารับซื้อ สับปะรด และ การส่งออกสับปะรด ปี 2568
Update: 2567/11/26 11:40:17 - Views: 666
การใช้ INVET ผสมปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดเพลี้ยแป้ง ศัตรูพืชสำหรับต้นมะนาว
Update: 2567/02/24 13:00:04 - Views: 3585
การจัดการหนอนศัตรูพืชที่พบในสวนมะม่วง: วิธีป้องกันและควบคุม
Update: 2566/11/23 10:02:20 - Views: 3829
โรคแคงเกอร์
Update: 2564/04/26 08:56:57 - Views: 4357
กำจัดเพลี้ย แมลงจำพวกปากดูด ใน มันสำปะหลัง และพืช ทุกชนิด เป็นสารชีวภาพปลอดภัย ปลอดสารพิษ มาคาและ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)
Update: 2566/05/08 13:39:38 - Views: 3573
สอบถามเกี่ยวกับพันธุ์อ้อยค่ะ
Update: 2554/06/20 17:33:09 - Views: 3861
หัวใชเท้า โตไว ใบเขียว หัวใหญ่ แข็งแรง ผลผลิตดี อะมิโนโปรตีนจำเป็นสำหรับพืช 18 ชนิด อะมิโนแรปเตอร์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/03 15:47:04 - Views: 3502
ลำไย โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ แข็งแรง ผลผลิตดี อะมิโนโปรตีนจำเป็นสำหรับพืช 18 ชนิด อะมิโนแรปเตอร์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/05 13:33:28 - Views: 3511
หนอนแตงโม หนอนชอนใบแตงโม หนอนเจาะแตงโม หนอน แตงโม ฉีดพ่น ไอกี้-บีที
Update: 2564/09/25 04:14:30 - Views: 3619
กล้วยไม้ยอดเน่า ดอกสนิม กำจัดโรคกล้วยไม้ จากเชื้อราต่างๆ ปลอดสารพิษ ไอเอส และ FK-T(ใช้ได้ทุกพืช)โดย FK
Update: 2565/10/04 09:55:35 - Views: 3575
ทุเรียนใบไหม้ มีสาเหตุมาจากโรคเชื้อรา แก้ด้วย ไอเอส ราฝ่อ หยุดลุกลาม
Update: 2563/10/28 14:21:37 - Views: 5690
ธาตุอาหารพืช โบรอน ซิลิคอน แคลเซียม ไนโตรเจน แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส คาร์บอน โพแทสเซียม สำคัญกับพืชอย่างไร - FK iLab ตรวจวิเคราะห์ดิน ตรวจวิเคราะห์ปุ๋ย รายงานผลออนไลน์
Update: 2563/09/02 08:36:07 - Views: 3852
ละมุด โตไว ใบเขียว ผลใหญ่ แข็งแรง ผลผลิตดี อะมิโนโปรตีนจำเป็นสำหรับพืช 18 ชนิด อะมิโนแรปเตอร์ โดย ไดโนเร็กซ์
Update: 2566/04/06 13:27:43 - Views: 3535
ส่งรูปมัน
Update: 2554/06/08 13:03:27 - Views: 3801
การใช้ Metalaxyl ผสม Starfer Fertilizer 30-20-5 ฉีดพ่นป้องกันและกำจัดโรคในต้นมะเขือเทศ
Update: 2567/02/28 13:21:32 - Views: 3560
ฟักทอง โตไว ใบเขียว เร่งราก เร่งดอก ขยายขนาด ผลใหญ่ ผลดก เพิ่มน้ำหนัก เพิ่มคุณภาพ ผลผลิต ด้วย ปุ๋ย สตาร์เฟอร์
Update: 2567/03/30 14:47:11 - Views: 3689
มันสำปะหลังผลผลิตต่ำ! เพราะขาดธาตุ สังกะสี เพราะเกี่ยวข้องกับการสร้าง คลอโรฟิลล์ สังเคราะห์โปรตีน ส่งเสริมการใช้ฟอสฟอรัส และไนโตรเจน ฯลฯ
Update: 2564/08/10 12:17:29 - Views: 4160
โรคราแป้ง ที่เกิดกับ แตงกวา
Update: 2564/08/09 05:45:36 - Views: 4129
ป้องกัน กำจัด หนอน ด้วย ไอกี้-บีที จุลินทรีย์ บีที กำจัดหนอนทุกชนิด ใช้ได้ทุกพืช
Update: 2566/10/28 09:55:44 - Views: 3605
ป้องกันและกำจัดเพลี้ยหอย ศัตรูพืชสำหรับต้นกาแฟ ด้วย INVET และเร่งฟื้นฟู ด้วย ปุ๋ยสตาร์เฟอร์ 30-20-5
Update: 2567/02/23 11:04:35 - Views: 3576
GA4 © FarmKaset.ORG |
สถาบันอนุญาโตตุลาการ
: 2022