เขาค้อ เสน่ห์ที่มีอยู่ต่อเนื่อง

เสน่ห์ของเขาค้อนั้นมีอยู่อย่างต่อเนื่อง จึงไม่แปลกใจ ไม่ว่าจะไปเยือนช่วงไหน มีผู้คนขวักไขว่ เหตุที่เขาค้อได้รับความสนใจมากนั้น อาจจะเป็นเพราะอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เริ่มออกเดินทางตอนเช้าๆ เที่ยงก็ถึงแล้ว ส่วนธรรมชาตินั้น แผ่นดินสูงเขาค้อมีสิ่งสวยๆ งามๆ ให้คนได้ชมไม่รู้จักเบื่อ

เขาค้อ มีภูมิประเทศที่สูงเด่นจากพื้นราบของภาคเหนือตอนล่าง ใครที่ได้เดินทางเข้าไป เหมือนหลุดเข้าไปในแดนดินถิ่นวิมาน และนึกไม่ถึงว่าบ้านเราจะมีสิ่งสวยๆ งามๆ ให้เห็น ที่อำเภอเขาค้อ เขาจัดถนนในรูปวงกลม หากเริ่มต้นที่สี่แยกสะเดาะพง ขับรถหมุนทวนเข็มนาฬิกา ใช้เวลาพอประมาณก็จะมาบรรจบที่เดิม สำหรับนักท่องเที่ยว ที่สนใจความแปลกใหม่และเร้นลับ หากมุ่งไปยังทุ่งนางพญา ตำบลหนองแม่นา จะมีป่าสนสลับกับทุ่งหญ้าสีทองยามหน้าหนาว สุดลูกหูลูกตา จุดนี้แหละที่หาดูได้ยาก แต่น้อยคนนักที่จะเข้าถึง เพราะหนทางกันดาร ผู้ที่ไปเที่ยวฉาบฉวย ยากที่จะพบเห็น

ที่เขาค้อ เกษตรที่สูงเขาค้อ ถือว่ามีชื่อทางด้านการท่องเที่ยว ทั้งนี้ เพราะตั้งอยู่ในทำเลที่เหมาะสม อากาศดี ภูมิทัศน์ยอดเยี่ยม
ส่วนงานวิจัยก็สอดคล้องกัน เพราะมีวิจัยเรื่องผลไม้ ดอกไม้ สมุนไพร พืชผักปลอดสารพิษ เดิมทีเกษตรที่สูงเขาค้อ เน้นวิจัยทางด้านเกษตรอย่างเดียว แต่ต่อมารัฐบาลได้เสนอแนวทางให้เปิดเรื่องการท่องเที่ยว จึงมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ก็สามารถท่องเที่ยวได้แล้ว เพราะสิ่งที่ทำ ก็ทำกันเป็นปกติ จุดเด่นที่เขาค้อนั้น เป็นเรื่องของอากาศ ช่วงฤดูร้อน อากาศอยู่ที่ 15-17 องศาเซลเซียส แต่เป็นช่วงหนาวแล้ว อุณหภูมิจะลดต่ำลงเหลือ 4-5 องศาเซลเซียส

เกษตรที่สูงเขาค้อ จัดภูมิทัศน์ได้สวยงาม เป็นภูมิทัศน์ถาวร แต่ส่วนหนึ่งเป็นดอกไม้เมืองหนาว คอยหมุนเวียนสับเปลี่ยน ให้คนได้ชมกัน ที่โดดเด่นมากมี ฮอลลี่ฮ็อก ดาวเรือง ผีเสื้อ และไม้สวยอื่นๆ เกษตรที่สูงมีที่พัก ในบรรยากาศที่เย็นสบาย โดยมีให้เลือกหลายหลัง แบ่งเป็นแบบบ้านเดี่ยว และเรือนพัก สนนราคาค่าที่พักนั้นเพียงท่านละ 100 บาท เท่านั้น แต่ขออภัย ช่วงเทศกาลต้องจองกันนาน ยิ่งช่วงหนาวด้วยแล้ว ต้องใช้ความพยายามเป็นพิเศษ ใครที่เข้าพัก เขามีให้สั่งอาหารรับประทานได้ ทางเกษตรที่สูงมีร้านอาหาร เมนูเด็ด เป็นแกงดอกดีปลากั้ง แต่มีเป็นช่วงๆ เท่านั้น อาหารอีกอย่างหนึ่งที่เป็นหน้าตานั้นคือ อาหารที่ได้จากปลีกล้วยหก

ไม้ผล - มะคาเดเมียนัตโดดเด่น

แปลงปลูกมะคาเดเมียนัต พืชชนิดนี้ มีปลูกกันที่เชียงใหม่ เลย แล้วก็เพชรบูรณ์ มะคาเดเมียนัต ที่เกษตรที่สูงเขาค้อ มีพื้นที่ปลูก 20 ไร่ โดยมีการปลูกกาแฟแซม เริ่มแรกเป็นการทดลอง ผลจากการทดลองสามารถเก็บผลผลิตแปรรูปได้ มะคาเดเมียนัตหนัก 1 กิโลกรัม มีจำนวน 120 ผล (ผลดิบ) การแปรรูปนั้น ผลดิบ 4 กิโลกรัม ผ่านการแปรรูปจะเหลือเนื้อที่รับประทานได้ 1 กิโลกรัม ซึ่งมีมูลค่า กิโลกรัมละ 500 บาท ดังนั้น มะคาเดเมียนัต 480 ผล (4 กิโลกรัม) จำหน่ายได้ 500 บาท เฉลี่ยแล้วราคาผลละ 1.04 บาท นี่เป็นตัวเลขโดยประมาณ

มะคาเดเมียนัต ปลูกได้ผล ในที่ค่อนข้างสูง ที่ราบภาคกลางปลูกไม่ได้ ต้นมีขนาดใหญ่ พุ่มใบแน่นทึบ ใบเขียวทั้งปี เป็นพืชที่เหมาะจะปลูกคลุมภูเขาไม่ให้เป็นเขาหัวโล้น แต่ข้อมูลทางวิชาการนั้น ปลูกได้ไม่กี่จังหวัด สำหรับกาแฟนั้น ปลูกแซมในมะคาเดเมียนัต ส่วนหนึ่งปลูกใต้ต้นกระถินณรงค์ กาแฟเป็นงานทดลองเช่นกัน แต่ผลผลิตสามารถนำมาแปรรูป เป็นกาแฟสดที่อร่อยมาก

พืชผักปลอดสารพิษ - ปลีกล้วยหก สุดยอด

แปลงมะระหวาน เป็นผลงานของคนงาน ทั้งนี้ทางเกษตรที่สูงอยากให้ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยมีรายได้เพิ่ม จึงให้ที่ดินส่วนหนึ่งปลูกมะระหวานหรือซาโยเต้ขายยอด ดูแล้ว ยอดมะระหวานน่ามีรายได้ดีกว่างานประจำ
ยอดมะระหวานนั้น เป็นอาหารหลักของคนที่ขึ้นไปเที่ยวเขาค้อ ไม่ว่าจะเป็นร้านที่ตำบลใด เขามีเมนูยอดมะระหวานให้ลิ้มลอง ซึ่งมีตั้งแต่ยอดมะระหวานผัดน้ำมันหอย แกงจืด แม้กระทั่งก๋วยเตี๋ยวก็ใช้แทนผักบุ้งและถั่งงอกได้

เกษตรที่สูงเขาค้อ มีโรงเรือนปลูกผักปลอดสารพิษ ในเนื้อที่ 5 ไร่ ผักที่ปลูก หากเป็นช่วงฤดูหนาวนั้นแน่นอน เน้นผักเมืองหนาวที่หารับประทานได้ยาก ผักปลอดสารพิษเขาเชื่อถือได้เพราะเป็นหน่วยงานราชการ ย่อมทำเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เกษตรกรอยู่แล้ว

ผ่านแปลงปลูกผัก เป็นดงกล้วยป่า กล้วยหกนั้น พอทราบมานานแล้วว่า ปลีอร่อย ถ้านำปลีกล้วยหกไปทอดน้ำมัน ก่อนทอดชุบด้วยแป้ง รสชาติของปลีกล้วยที่ได้นั้น หวาน มัน รสชาติอร่อย บางคนบอกว่าอร่อยยิ่งกว่ากุ้งชุบแป้งทอดเสียอีก จุดดีจุดเด่นของปลีกล้วยที่เห็นนั้น อยู่ตรงที่เป็นอาหารปลอดสารพิษ เพิ่มเติมนิดหนึ่ง เมนูกล้วยหกยังทำได้อีกหลายชนิด อาทิ แกงเลียง ยำ เป็นต้น ถือว่าเป็นของหายากและคุณค่าสูง สำหรับปลีกล้วยหก โดยทั่วไปพบเห็นปลีกล้วยหกขึ้นอยู่ที่สูง เช่น เขาค้อ ดอยอ่างขาง ไม่แน่ใจว่าพื้นราบจะมีปลีให้เห็นหรือไม่ ใครที่แวะเวียนไปทางเขาค้อ ลองสอบถามกันดู

อาณาบริเวณ - สะอาดสวยงาม

ภายในเกษตรที่สูงเขาค้อ เป็นหุบเล็กๆ ซึ่งอาณาบริเวณถูกจัดแต่งอย่างสวยงาม ผู้ที่ไปเยือน หากอยากสัมผัสธรรมชาติ สามารถคุยกับเจ้าหน้าที่ได้ว่า อยากกางเต็นท์ เขาก็ยินดีให้คำปรึกษา นอกจากที่แนะนำมา เกษตรที่สูงเขาค้อ ยังมีมุมสวยๆ อีกหลายแห่ง รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยวข้างนอกก็อยู่ไม่ไกล ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก ป่าไม้ สวนเกษตรกร

รายละเอียดเกี่ยวกับเกษตรที่สูงเขาค้อ

	ที่ตั้ง : เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
	การเดิน ทาง : รถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านจังหวัดสระบุรี ก่อนถึงสวนพฤกษศาสตร์พุแค ตรงกิโลเมตรที่ 125 เลี้ยวขวามือ เข้าทางหลวงหมายเลข 21 ขับตรงไป ซึ่งอาจจะเรียกถนนสายนี้ว่ากรุงเทพฯ-หล่มสัก ก็ได้ เมื่อใช้ถนนสายนี้จะผ่านอำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี จากนั้นก็เข้าสู่พื้นที่ของจังหวัดเพชรบูรณ์ คืออำเภอศรีเทพ วิเชียรบุรี บึงสามพัน แล้วก็ถึงตัวเมืองเพชรบูรณ์ ออกจากตัวเมืองเพชรบูรณ์ ไปอีก 10 กิโลเมตรเศษๆ ซ้ายมือมีทางบอกเลี้ยวซ้ายขึ้นเขาค้อ ตรงดิ่งขึ้นเขาค้อ จะมีป้ายบอกที่ตั้งของศูนย์อย่างชัดเจน ทางจากถนนใหญ่ เข้าสู่ตัวเขาค้อ ค่อนข้างลาดชัน ผู้ไม่ชำนาญทาง ควรขับด้วยความระมัดระวัง
	ผู้สนใจ จะไปเที่ยวศูนย์บริการวิชาการด้านพืชและปัจจัยการผลิตเพชรบูรณ์ 2 ติดต่อได้ที่ โทร. 056-723056 และ 0-1737-0951

ข้อมูลจาก : http://www.yourhealthyguide.com/travel/tn-khaokro.htm

ส่งความคิดเห็น