ฟาร์มเกษตร
ครบเครื่อง เรื่องปุ๋ยยา
ช่องทางการสั่งซื้อสินค้าจากฟาร์มเกษตร
1. โทรสั่งซื้อที่ 089-459-9003
2. แอดไลน์ไอดี PrimPB แชทสั่งซื้อ
3. สั่งทางเฟสปริม เฟสบุ๊คปริมคลิกที่นี่
4. สั่งผ่านะระบบตระกร้าสินค้า FKX.asia
5. สั่งผ่านเว็บลาซาด้า LAZADA.co.th
ทุกช่องทาง ชำระเงินขณะรับสินค้าที่บ้านคุณ
หมวด: เกษตรน่ารู้ | อ่านแล้ว 11399 คน | สั่งพิมพ์หน้านี้ | L

จุลินทรีย์ท้องถิ่น (IMOs) เราเพิ่มให้ดินได้ ดินจะสมบูรณ์ พืชปลอดโรค โตไว แข็งแรง

เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่หาได้ในสวนของเกษตรกร นักเกษตรธรรมชาติยอมรับกันว่าจุลินทรีย์ท้องถิ่น มีความแข็งแรงกว่าจุลินทรีย์..

data-ad-format="autorelaxed">

จุลินทรีย์ท้องถิ่น (Indigenous Micro-organisms : IMOs)

เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่หาได้ในสวนของเกษตรกร นักเกษตรธรรมชาติยอมรับกันว่าจุลินทรีย์ท้องถิ่น มีความแข็งแรงกว่าจุลินทรีย์เดี่ยวหรือจุลินทรีย์คัดสายพันธุ์ที่วางขายตามท้องตลาดในรูปหัวเชื้อจุลินทรีย์ชนิดต่างๆ จุลินทรีย์ท้องถิ่นมีความทนทาน สามารถปรับตัวและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในสภาพอากาศ อุณหภูมิความชื้น และปัจจัยอื่นๆ ต่างๆโดยเลือกเก็บจุลินทรีย์ตาม กองใบไม้ รากไม้ ใต้กอไผ่ หรือตอซังข้าวที่ผุพังดังนั้นนักเกษตรธรรมชาติควรเก็บรวบรวมจุลินทรีย์ท้องถิ่นให้หลากหลายสายพันธุ์เพื่อน นำมาใช้ประโยชน์จุลินทรีย์ในสวน 1,000,000 ล้านเซลล์ จะช่วยปรับสมดุลดินและน้ำในสวนเกษตรให้เหมาะต่อเขา บนเขา

 

IMO คืออะไร ?

เทคนิค การผลิตพืชและสัตว์ในระบบเกษตรธรรมชาติจะมีการนำจุลินทรีย์มาเกี่ยวข้องเสมอ เกษตรธรรมชาติเน้นความหลากหลายของจุลินทรีย์ เน้นการควบคุมกันเองของ จุลินทรีย์ในห่วงโซ่อาหาร ซึ่งจะมีผลต่อชนิดและ ปริมาณของจุลินทรีย์ในระบบนิเวศ จุลินทรีย์ที่เป็นโทษต่อการผลิต พืชและสัตว์ ตามความคิดของมนุษย์จะเป็นผลสืบเนื่องมาจากความไม่สมดุลของความหลากหลายของจุลินทรีย์ในห่วงโซ่อาหารของ ระบบนิเวศนั้น ๆ

 

การทำเกษตรแบบธรรมชาติ จะไม่นำจุลินทรีย์จากต่างพื้นที่เข้ามาใช้ในกระบวนผลิต ทั้ง นี้รวมถึงจุลินทรีย์ที่ได้จากกระบวนการผลิตที่เพาะเลี้ยงและคัดแยกสายพันธุ์ของจุลินทรีย์จนเป็นสายพันธุ์บริสุทธิ์ (สายพันธุ์เดี่ยวๆ) ซึ่งมีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด เนื่องจากจุลินทรีย์ดังกล่าวจะไม่แข็งแรงและไม่มีประสิทธิภาพ เมื่อนำกลับไป สู่ธรรมชาติอีกครั้ง เหมือนกับจุลินทรีย์ดั้งเดิมในท้องถิ่น ที่ อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นๆ เป็นเวลานานจนสามารถปรับตัวและมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ภายในพื้นที่ได้ มีรายงานว่า เกษตรกรหลายรายที่เคยใช้จุลินทรีย์ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด เริ่มให้การยอมรับในประสิทธิภาพการทำงานของจุลินทรีย์ดั้งเดิมในท้องถิ่นมาก ขึ้น

 

การฉีดพ่นหรือเติมจุลินทรีย์ท้องถิ่น และน้ำหมักจากพืชสีเขียว จะทำให้สภาพแวดล้อมในไร่นากลับคืนสู่สภาพที่ดีขึ้น โดย เฉพาะประเทศในแถบเอเชีย ความสามารถในการผลิตจุลินทรีย์ท้องถิ่นนี้ ถือได้ว่าเป็นวัสดุที่สำคัญในการ ทำการเกษตรที่ยั่งยืน เนื่องจากสามารถผลิตได้ที่บ้านของเกษตรกรเอง

 

จุลินทรีย์ท้องถิ่น (IMOs) คือพื้นฐานของความของความอุดมสมบูรณ์ของดิน

การ เพาะปลูกจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าปราศจากดินที่เหมาะสมดังนั้นการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่เพาะปลูกจึงควรต้องทำเป็น อันดับแรกดินที่มีความอุดมสมบูรณ์จะมีลักษณะอย่างไร


จากรายงานการวิจัยพบว่าดินที่ไม่มีการปนเปื้อนสารพิษในพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร จะมีจุลินทรีย์อยู่หลายชนิดคิดเป็นน้ำหนักเท่ากับ 700 กิโลกรัมโดยปกติปริมาณจุลินทรีย์มากน้อยจะขึ้นอยู่กับปริมาณอินทรียวัตถุในดิน โดยจุลินทรีย์ดินจะ ประกอบด้วยเชื้อรา 75% แบคทีเรีย 20-25% และสัตว์ขนาดเล็กในดิน 5% คิดเป็นน้ำหนักแห้งประมาณ 140 กิโลกรัม (คิดคำนวณจากการมีน้ำเป็นองค์ประกอบ 80%)

 

ปริมาณน้ำหนักแห้งของ จุลินทรีย์รวม 140 กิโลกรัม จะมีจำนวนคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ 70 กิโลกรัม ไนโตรเจน 11 กิโลกรัม ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบถึงอัตราของปุ๋ยไนโตรเจนที่ต้องใช้ 10 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร จะพบว่าปริมาณไนโตรเจนในธรรมชาตินี้มีปริมาณใกล้เคียงกันกับประมาณที่พืช ต้องการ

 

ในดิน 1 กรัมจะมีจุลินทรีย์ชนิดต่างๆ อาศัยอยู่จำนวนระหว่าง 100 ล้านเซลล์ถึงหนึ่งล้านล้านเซลล์ นักสิ่งแวดล้อมเคยรายงานว่า ในพื้นที่ขนาดเท่ากับรอยเท้ามนุษย์ในความลึก 1 เมตรจะมีเพลี้ยอ่อน 3,280 ตัว หมัด 479 ตัว ไส้เดือนฝอย 74,810 ตัว และไส้เดือนดิน 1,845 ตัว อาศัยอยู่อย่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน โดยจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชโดยทางอ้อม ความ สำเร็จในการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมก็เกิดจากการจัดการที่ดี เพราะดินเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ

 

ดังนั้นการปรับปรุงสภาพแวดล้อมและจัดการให้มีอาหารที่เพียงพอสำหรับ จุลินทรีย์และสัตว์อื่นๆ ในดิน จึงมีความสำคัญมาก พบว่าเมื่อคลุมดินที่มีความแข็งกระด้างด้วยฟางข้าว หรือตอซังข้าวประมาณ 7-10 วัน จะมีเชื้อราขาวเกิดขึ้น และดินที่เคยแข็งกระด้างก็จะกลับมาอ่อนนุ่ม และชุ่มชื้น
สภาพเช่นนี้จะเป็นทึ่งดูดให้ไส้เดือนเข้ามาในพื้นที่ เกษตรกรไม่จำเป็นจะต้องซื้อจุลินทรีย์ที่มีจำหน่ายอยู่ตามท้องตลาดมาพ่นลงในดิน เพียงแค่จัดการสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมที่จุลินทรีย์อาศัยอยู่ได้ ก็จะทำให้ดินฟื้นฟูสภาพได้ด้วยตัวเอง

 

จุลินทรีย์ท้องถิ่น IMOs

 

 

ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมจะพบ เชื้อราเจริญขึ้นมาตามลำดับตามมาด้วยไส้เดือนฝอยที่กินเชื้อราเป็นอาหารไส้เดือนดิน จิ้งหรีด แมงกะซอน และตัวตุ่น

ดังนั้นสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็จะช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมในดินให้มีการพัฒนา อย่างผสมกลมกลืนกัน และมีผลต่อการเจริญเติบโตของพืชโดยทางอ้อมและจะพบว่า 90% ของจุลินทรีย์ดินที่เป็นประโยชน์ต่อพืชจะอาศัยอยู่ที่ระดับความลึกไม่เกิน 5 เซนติเมตรจากผิวหน้าดินลงไป

 

เมื่อผืนดินถูกปกคลุมด้วยอินทรียวัตถุเช่น ตอซังข้าว สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมและมีสัดส่วน 7:3 คือ มีร่มเงา 7 ส่วน และแสงอาทิตย์ 3 ส่วน

 

ในส่วนที่เป็นร่มเงาภายใต้ฟางข้าว จะช่วยลดการระเหยของน้ำ และดินก็จะไม่ถูกแสงจากดวงอาทิตย์โดยตรง การทำให้เกิดสภาพเช่นนี้มีหลายวิธี เช่น การคลุมดินด้วยตอซังข้าว การใช้ใบไม้คลุมดิน การปลูกพืชคลุมดิน และการหว่านเมล็ดคลุมดิน

 

จะเห็นได้ว่าบนภูเขาและทุ่งนาในธรรมชาติ ดินจะมีความอุดมสมบูรณ์มาก และดินจะดีจากด้านบนและลดลงสู่ด้านล่างไม่ใช่จาก ด้านล่างขึ้นไปด้านบนปุ๋ยอินทรีย์และวัสดุอินทรีย์ทั้งหลาย สามารถนำมาใช้ทำวัสดุคลุมผิวดินได้ ทุกชนิดโดยทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์รูปแบบใกล้เคียงกับธรรมชาติ

 

อ้างอิงข้อมูลจาก http://pirun.ku.ac.th..

 

สินค้าแนะนำ

IMO: ไอเอ็มโอ

ป้องกัน กำจัดเชื้อรา ป้องกันโรคทางดิน

IMO3L_B

 

 

 

ป้องกันโรครา เช่นราแป้ง ราใบจุด โรคใบร่วง ออยเดียม ไฟท็อปโทร่า ใช้ฉีดพ่นลงดิน เพื่อเพิ่มจุลินทรีย์ชนิดดีที่มีประสิทธิภาพลงในดิน ปรับปรุงดินให้มีคุณภาพ ใช้ฉีดพ่น เพื่อย่อยสลายใบไม้ หรือซากพืช ซากสัตว์ในพื้นที่ เพื่อเร่งขบวนการย่อยสลายอินทรียวัตถุ ให้กลายเป็นธาตุอาหารที่มีประโยชน์ในดินต่อๆไป

ไอเอ็มโอ เป็นจุลินทรีย์ ทางเราจัดส่งแบบ EMS เท่านั้น เพื่อป้องกันความเสียหายหรือการรั่ว ที่เกิดจากการขยายตัวของจุลินทรีย์ในช่วงจัดส่ง

 

ไอเอ็มโอ
จุลินทรีย์ประสิทธิภาพสูง

 
ดินดี ต้นใหญ่ โตไว ไกลโรค
 
*โปรดอ่าน สำหรับสินค้าสามรายการดังนี้ 1.IMO(ไอเอ็มโอ) 2.Bio-N(ไบโอ-เอ็น) และ 3.IC-KIT2(ชุดย่อยสลายตอซังฟางข้าว) กรณีจัดส่งทางไปรษณีย์ ทางฟาร์มเกษตรจะทำการใช้สติกเกอร์แผ่นเล็กๆ ปิดรูระบายอากาศที่ฝาด้านบนของขวด ก่อนจัดส่งให่ท่าน เนื่องจากสินค้าทั้งสามรายการนี้ ประกอบด้วยจุลินทรีย์ แพ็คเกจจึงต้องมีรูระบายอากาศเล็กๆ ฉนั้นก่อนเราทำการจัดส่ง จึงต้องปิดรูเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยในการขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัว IC KIT2 ย่อยสลายฟางข้าว เราจำเป็นต้องตัดพลาสติกหุ้มแพคเกจก่อน แล้วจึงจะใช้สติกเกอร์ปิดรูได้

 

มีขนาด 3 ลิตร และขนาด 20 ลิตร

- เพิ่มการย่อยสลายอินทรียวัตถุในดิน และเศษซากพืชซากสัตว์ในดิน
- ป้องกันการเกิดโรคทางดิน ได้แก่ โรครากเน่าโคนเน่า โรคเส้นดำ โรครากขาวโรคเหี่ยว
- ป้องกันโรครา เช่นราแป้ง ราใบจุด โรคใบร่วง - เพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ในดิน
- ปรับสภาพดิน และพัฒนาโครงสร้างดิน - เพิ่มประสิทธิภาพการปลดปล่อยธาตุอาหารในดิน
- เพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดิน
- ลดปัญหาการเกิดโรคทางดิน * ข้อสำคัญ ห้ามใช้ร่วมกับสารเคมี หรือสัมผัสกับสารเคมี เนื่องจาก สารเคมีจะทำให้จุลินทรีย์ประสิทธิภาพสูงเสื่อมคุณภาพ และตาย

 

จุลินทรีย์ท้องถิ่น (IMO)

ในปัจจุบันนี้เกษตรกรได้หันมาผลิตพืชเชิงเดี่ยวเพื่อการค้าและการส่งออกมากยิ่งขึ้น ซึ่งการปลูกพืชซ้ำ ๆ กันในพื้นที่เดิมเป็นระยะเวลานานโดยไม่มีการบำรุงดินย่อมส่งผลให้ดินเสื่อมโทรม ผลผลิตตกต่ำ ต้องใช้ปุ๋ยใช้ยาเพิ่มมากขึ้น การพึ่งพาปัจจัยเหล่านี้ย่อมทำให้เกษตรกรเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เนื่องจากราคาผลผลิตถูกผูกขาดและกำหนดราคาโดยกลไกของระบบตลาดทุน ซึ่งเกษตรกรรายย่อยไม่สามารถควบคุมได้ เมื่อปัจจัยการผลิตมีราคาแพงขึ้น ในขณะที่ปริมาณผลผลิตและราคาผลผลิตก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม ย่อมทำให้เกษตรกรประสบกับภาวะขาดทุนและมีหนี้สินเพิ่มขึ้นมากทุกที รวมทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตก็เสื่อมโทรมลง เนื่องจากการใช้ปุ๋ยและสารเคมีเหล่านี้

 

ความหมายและความสำคัญของจุลินทรีย์ในท้องถิ่น 

ทั้งนี้ การนำจุลินทรีย์ท้องถิ่นหรือจุลินทรีย์พื้นบ้านมาปรับใช้กับระบบผลิตของเกษตรกรอาจเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยแก้ปัญหาดังกล่าวให้กับเกษตรกรได้ เนื่องจากเป็นเทคนิคที่สอดคล้องกับสภาพของท้องถิ่นที่แตกต่างกันเพราะมีการนำเอาจุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ภายในท้องถิ่นนั้น ๆ มาทำเป็นหัวเชื้อสำหรับนำไปขยายและประยุกต์ใช้ในด้านต่าง ๆ ช่วยปรับปรุงบำรุงดินให้ดีขึ้น สามารถปลูกพืชงอกงาม ให้ผลผลิตสูง ทำให้ธรรมชาติเกิดความสมดุล โรคและแมลงศัตรูพืชลดลง รวมทั้งเกษตรกรก็ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีในการผลิต ทำให้ช่วยลดต้นทุนการผลิต เกษตรกรสามารถพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น คุณภาพชีวิตของเกษตรกรก็ดีขึ้นตามไปด้วย

 

โดยทั่วไป จุลินทรีย์ท้องถิ่นหรือจุลินทรีย์พื้นบ้านจะหมายถึง จุลินทรีย์ที่อาศัยอยู่ในขอบเขตของระบบนิเวศนั้น ๆ ไม่ได้นำเข้ามาจากภายนอกระบบ ภายนอกท้องถิ่น ภายนอกเมือง ภายนอกประเทศ หรือภายนอกภูมิภาคโลกนั้น ๆ เรียกเป็นภาษาอังกฤษได้ว่า Indigenous Micro Organisms (IMO)

 

ไอ เอ็ม โอ (IMO) เป็นชื่อเฉพาะที่สมาคมเกษตรธรรมชาติแห่งประเทศเกาหลี ใช้เรียกราใบไม้สีขาว ซึ่งเป็นจุลินทรีย์กลุ่มเล็ก ๆ ในกลุ่มราเมือก (Leaf Mold) ที่อาศัยอยู่ภายในขอบเขตพื้นที่เพาะปลูก เป็นสายพันธุ์ที่จะใช้ประโยชน์ในการทำการกสิกรรมไร้สารพิษได้ดี มีคุณภาพสูง จุลินทรีย์ท้องถิ่นเหล่านี้มีประสิทธิภาพดีกว่าจุลินทรีย์ที่ได้จากน้ำหมักอีเอ็ม หรือ พ.ด. สูตรต่าง ๆ เนื่องจากเป็นจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์จำนวนมาก หลากหลายชนิด สามารถปรับตัวและเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมของท้องถิ่นนั้น ๆ และประการสำคัญคือ จุลินทรีย์ท้องถิ่นนั้น เกษตรกรไม่ต้องไปซื้อหาที่ไหนเพราะมีอยู่แล้วภายในท้องถิ่น อีกทั้งสามารถผลิตใช้ได้เองไม่ยุ่งยาก สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างหลากหลาย รวมทั้งสามารถพัฒนาคิดค้นสูตรที่เหมาะสมกับระบบการผลิตของตนเองได้อีกด้วย

 

ประโยชน์ของเชื้อราขาว (จุลินทรีย์ท้องถิ่น) 

1. ช่วยย่อยสลายเร็ว (ทำปุ๋ยหมัก)
2. ปรับความเป็นกรดด่างของดิน หรือ pH
3. ทำให้ดินปลดปล่อยแร่ธาตุ
4. ทำให้ดินโปร่ง มีออกซิเจน จุลินทรีย์ทำงานได้เต็มที่ มีประสิทธิภาพ
5. ทำให้พืชต้านทานโรคที่เกิดจาก เชื้อรา โรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โรคที่เกิดจากเชื้อไวรัส โรคที่เกิดจากไส้เดือนฝอย และดับกลิ่นเหม็นในคอกสัตว์
6. เพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน

 

วิธีใช้ประโยชน์จากจุลินทรีย์ท้องถิ่น IMO

เวลาใช้ให้ผสมน้ำในอัตราส่วน IMO 1 ส่วน : น้ำ 1,000 ส่วน หรือ IMO 2 ช้อนโต๊ะ : น้ำ 10 ลิตร แล้วคลุกผสมกับรำข้าว สัดส่วนที่เหมาะสมจะกำหนดได้ยาก เราต้องทดลองกำดู ผสมแล้วกำไว้ เมื่อคลายมือแบออกก้อนรำผสมนั้นจะอยู่คงรูป ถ้าส่วนผสมเหลวเกินไปเพราะน้ำมากไปเราจะต้องเติมรำเข้าไปคลุกอีกจนได้ลักษณะที่ต้องการ

 

ส่วนผสมที่เราทำขึ้นนี้จะเป็นเชื้อดินหมักที่เราจะใช้สำหรับเอาไปโรยบนดินที่ต้องการทำการเพาะปลูก เมื่อผสมแล้วเราต้องเอาฟางคลุมทิ้งไว้อีก 7-10 วัน เชื้อดินหมักจะได้ที่ ฟางที่คลุมนั้นถ้าสานเป็นเสื่อฟางได้จะดีมาก

 

จุลินทรีย์ IMO ชอบนอนใต้ฟาง กองเชื้อดินหมักนี้ต้องทำในร่ม ใต้หลังคา อย่าให้ถูกฝนถูกน้ำ การใช้ประโยชน์ IMO โดยทั่วไปจะมี 2 ลักษณะใหญ่ ๆ ได้แก่

 

1. เพื่อใช้ปรับโครงสร้างของดิน โดยเอาดินในพื้นที่ของเราน้ำหนักเท่ากับเชื้อดินหมัก คลุกเคล้าให้เข้ากัน ทำเป็นกอง เอาฟางคลุมไว้ดังเดิม ทิ้งไว้อีก 3 วันแล้วจึงนำไปใช้โรยในไร่นาเพื่อเตรียมดินทำการเพาะปลูกได้

 

2. เพื่อใช้เป็นส่วนผสมกับปุ๋ยหมักให้มีคุณภาพสูงขึ้น โดยใช้เชื้อดินหมักประมาณ 1 กิโลกรัม ต่อน้ำประมาณ 200 ลิตรที่จะใช้ทำการหมัก และทำตามกระบวนการหมักทั่วไป

 

โดยสรุปแล้วเทคนิคเกี่ยวกับจุลินทรีย์ท้องถิ่น คงไม่ได้เป็นเพียงเทคนิคสำหรับการปรับปรุงบำรุงดินเท่านั้น หากแต่ชวนให้ตระหนักถึงการปรับเปลี่ยนกระบวนความคิดความเชื่อของเกษตรกรไทย จากการเป็น “เกษตรกรมือสอง” ที่คอยแต่พึ่งพาเทคโนโลยีของระบบทุน ให้กลับมาเป็น “เกษตรกรมือหนึ่ง” ที่สร้างองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมของตนเองขึ้นมาดังเช่นเกษตรกรในอดีต ที่ได้สร้างสรรค์ภูมิปัญญาขึ้นมามากมาย รวมถึงแสดงให้เห็นถึงแนวทางในการปรับเปลี่ยนระบบการผลิต จากการผลิตที่ถูกครอบงำโดยปัจจัยภายนอก มาเป็นการผลิตที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี

 

แม้ในวันนี้การปรับเปลี่ยนกระบวนความคิดและระบบการผลิตของเกษตรกรไทยโดยรวม ยังเป็นสิ่งที่ยากลำบาก แต่เมื่อใดก็ตามที่ยังมีเกษตรบางส่วนเลือกที่ศึกษาภูมิปัญญาดังเดิมและพัฒนาองค์ความรู้ที่สอดคล้องกับวิถีการผลิตและวัฒนธรรมของชุมชน ก็เชื่อได้ว่าเกษตรกรเหล่านี้จะคอยเป็นแรงผลักดันอันมีค่าที่จะช่วยขับเคลื่อนขบวนการเกษตรกรไทยให้เดินไปสู่วิถีการเกษตรแบบยั่งยืนที่มีคุณค่า พึ่งพาตัวเองได้ในที่สุด

 

สนใจผลิตภัณฑ์ติดต่อได้ที่

ฟาร์มเกษตร หรือ www.FarmKaset.ORG
คุณ ปิยะมาศ โทร 089-459-9003
หรือ สั่งซื้อผ่านระบบออนไลน์คลิกที่นี่


อ่านเรื่องนี้แล้ว : 11399 คน £




ความคิดเห็นจากผู้อ่าน:

ส่งความคิดเห็น



เลือกหมวด :

แสดงเนื้อหารวมจากทุกหมวด, สินค้าเกษตร, ไอเดียและเทคโนโลยีเกษตร, รวม VDO เด่นจาก FK, นาข้าว, เศรษฐกิจเกษตร, ภาพถ่ายเกษตร, ไร่อ้อย, มันสำปะหลัง, ยางพารา, ปาล์มน้ำมัน, ไร่ข้าวโพด, ผักและการปลูกผัก, การปลูกพืช, ไม้ผล ไม้ยืนต้น, เกษตรน่ารู้, สมุนไพร, ไม้มงคล, พุทธศึกษา, FK Talk, สุขภาพ, การใช้ SUN กับพืชต่างๆ, แอพฯด้านเกษตร, ไม้ดอก ไม้ประดับ, องค์กรด้านเกษตร, ซื้อขายที่ดิน, ห้องปศุสัตว์, ประมง, เกษตรกรตัวอย่าง, ฟาร์มเกษตรพาเที่ยว, FK Freestyle, Agri live update, ออแกนิกส์, จักรกล, อุปกรณ์การเกษตร, ไร่กาแฟ,


แสดงทั้งหมดใน [เกษตรน่ารู้]:
พืชที่ขาด ธาตุสังกะสี ต้นจะแคระ ใบเล็ก พืชที่ขาดธาตุเหล็ก ใบจะเหลือง และโตช้า
ปลูกพืชข้ามแล้ง พืชไม่กินปุ๋ย ต้นแคระ ใบเหลือง และใบร่วง และมักเกิดโรคระบาดในแปลงปลูกในช่วงหน้าหนาว
อ่านแล้ว: 9130
ดูแลพืช แก้ปัญหาพืชที่ไม่กินปุ๋ย ใบเหลือง ไม่แข็งแรง
ในระยะเร่งโตปุ๋ยกินทางใบ มีประสิทธิภาพสูงสุดทั้งธาตุหลัก ธาตุรอง และธาตุอาหารเสริมเข้มข้น ด้วยสูตรพิเศษ
อ่านแล้ว: 7477
แนะใช้ ไตรโคเดอร์มา แก้โรคพืชในพริกไทย
สำหรับเชื้อราไตรโคเดอร์มา เป็นเชื้อราชั้นสูงที่ดำรงชีวิตอยู่ในดิน อาศัยเศษซากพืช ซากสัตว์และอินทรียวัตถุเป็นแหล่งอาหาร
อ่านแล้ว: 7550
เก็บไม่ทันขาย-รายได้งาม! หลินจือแดง บ้านเกาะใหญ่ ออร์เดอร์ล้นเกินปีใหม่
พัฒนาเห็ดหลินจือแดงไปอีกขั้น โดยนำเห็ดหลินจือแดงสดที่ตากแห้งส่งให้ มอ.หาดใหญ่ตรวจเพื่อยื่นเรื่องขอ อย.
อ่านแล้ว: 7879
สารคามติวเข้มเกษตรกร รู้ทันเล่ห์พ่อค้าโกงตาชั่ง ระบาดหนักสุดในภาคอีสาน!
เผยมีเครื่องชั่งไฟฟ้าที่ใช้รับซื้อข้าวเปลือก ยางพารา แอบใช้รีโมตกำหนดน้ำหนักเองได้ กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 300 เครื่อง
อ่านแล้ว: 6862
เพาะเลี้ยง ไข่น้ำ อาหารปลาราคาถูก
คนอีสานรู้จักผำมาแต่โบราณ เอาทำกับข้าว ผัดใส่ไข่เจียว แต่รู้จักเอามาจากธรรมชาติ โดยเฉพาะในหน้าฝนเกิดขึ้นมาก แต่..
อ่านแล้ว: 8130
เปิดวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ข้าว ทุเรียน ปาล์ม แนะเกษตรกรวางแผนเก็บกักน้ำ ใช้ให้เหมาะกับพื้นที่
บูรณาการศึกษาวอเตอร์ฟุตพริ้นท์ ของการผลิตข้าวหอมมะลิ การผลิตข้าว กข การผลิตทุเรียน และการผลิตปาล์มน้ำมัน
อ่านแล้ว: 7357
หมวด เกษตรน่ารู้ ทั้งหมด >>