แบคทีเรียกินเนื้อคน แอโรโมแนส

แบคทีเรียกินเนื้อคน แอโรโมแนสแบคทีเรีย และ แอนแอโรบิกแบคทีเรีย 

เมื่อเราเกิดเป็นแผล สิ่งที่สำคัญที่สุด คือเรื่องความสะอาด ต้องล้างแผลด้วยแอลกอฮอล์ให้สะอาด หรือทำแผลอย่างดี เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แม้จะเป็นแผลเล็กน้อยก็ตาม เนื่องจากแบคทีเรีย ที่เป็นสาเหตุของแผลเน่า และอาจลุกลามร้ายแรง ไปจนถึงขั้นที่ทำให้อาจต้องเสียอวัยวะ อย่าง แขน ขา หรือ ร้ายแรงได้จนกระทั่งเสียชีวิตก็มี เพราะฉนั้น เมื่อเกิดเป็นแผล ต้องให้ความสำคัญกับความสะอาด และการฆ่าเชื้อโรค หากไปห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล หรือสถานีอนามัย เพื่อให้ทำแผลให้ จะเป็นการดีที่สุด

ในช่วงนี้ มีข่าวที่ทำให้คนหวาดกลัวกันมาก เกี่ยวกับเรื่อง แบคทีเรียกินเนื้อคน คือมีบุคคลที่เป็นข้าราชการท่านหนึ่ง ได้ไปเลือกซื้อปลาสด และโดนเงี่ยงปลาตำมือ ในขณะที่กำลังเลือกซื้อปลาอยู่นั้น ซึ่งเป็นแผลที่ไม่ใหญ่ ไม่น่าจะส่งผลร้ายอะไรได้ แต่หลังจากนั้นเพียง 48 ชั่วโมงหลังจากนั้น และหลังจากที่ได้มีการพิสูจน์แล้ว สรุปได้ว่า เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียกินเนื้อคน จากบาดแผลเล็กๆ และลุคลาม ทำลายเนื้อเยื่อ จนติดเข้ากระแสเลือด และเสียชีวิตในที่สุด

เชื้อแอนแอโรบิกแบคทีเรีย (Anaerobic Bacteria) และเชื้อแอโรโมแนสแบคทีเรีย (Aeromonas Bacteria) เป็นเชื่อแบคทีเรียที่ ออกฤทธิ์รุนแรงกว่า แบคทีเรียชนิดอื่นๆหลายเท่า แบคทีเรียชนิดนี้ สามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่อาศัยออกซิเจน เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเกิดการเน่าตายของเนื้อเยื่อ และลามไปถึงการติดเชื้อในกระแสเลือดจนช็อกเสียชีวิตในเวลา 48 ชั่วโมง  สำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน และผู้ที่มีภูมิต้านทานต่ำ จะมีโอกาสได้รับผลกระทบจากเชื้อแบคทีเรียนี้ ได้มากกว่าคนทั่วไป หากเป็นแผล และปล่อยให้มีการติดเชื้อ

จากการแนะนำของแพทย์ กล่าวว่า ไม่เฉพาะแบคทีเรียกินเนื้อคนดังกล่าว ที่สามารถส่งผลร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ แต่ในสภาวะแวดล้อมทั่วไป ก็มีแบคทีเรียอยู่ หากเกิดแผล และไม่ดูแลรักษาความสะอาด หรือไม่ได้รับการทำแผลอย่างถูกวิธีแล้ว อาจจะมีการติดเชื้อที่บาดแผล และลุกลามทำลายเนื้อเยื่อ เกิดเป็นแผลเน่า หรือทำให้ปวดแผลมาก โดยเฉพาะแผลลึก อาจจะทำให้มีไข้สูง หากได้รับการรักษาที่ไม่ถูกวิธี อาจจะส่งผลถึงชีวิตได้ ภายใน 1 สัปดาห์

แบคทีเรียกินเนื้อคนนี้ จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ เพียงแต่ความแตกต่างของแบคทีเรียแต่ละชนิด จะส่งผลร้าย ได้เร็วไม่เท่ากัน หากเป็นแบคทีเรียชนิดร้ายแรง ก็จะทำลายเนื้อเยื่ออย่างรวดเร็ว และส่งผลถึงชีวิตได้ ภายใน 48 ชั่วโมง

เพราะฉนัน หากเป็นแผล ควรทำแผลอย่างดี ล้างแผลให้สะอาด ฆ่าเชื้อตามวิธีที่ถูกต้อง หากปวดแผลมาก หรือตัวร้อน ไข้ขึ้น ต้องรีบพบแพทย์โดยด่วน เพื่อรักษาอาการได้ทัน

ส่งความคิดเห็น