ฟาร์มเกษตร
ครบเครื่อง เรื่องปุ๋ยยา
ช่องทางการสั่งซื้อสินค้าจากฟาร์มเกษตร
1. โทรสั่งซื้อที่ 089-459-9003
2. แอดไลน์ไอดี PrimPB แชทสั่งซื้อ
3. สั่งทางเฟสปริม เฟสบุ๊คปริมคลิกที่นี่
4. สั่งผ่านะระบบตระกร้าสินค้า FKX.asia
5. สั่งผ่านเว็บลาซาด้า LAZADA.co.th
ทุกช่องทาง ชำระเงินขณะรับสินค้าที่บ้านคุณ
หมวด: FK Talk | อ่านแล้ว 22599 คน | สั่งพิมพ์หน้านี้ | L

เลคติน สารประกอบเคมีที่ได้จากกล้วย

สารที่สกัดได้จากกล้วยว่ามีความสามารถในการยับยั้งการแพร่ของเชื้อ HIV ได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการค้นพบที่จะทำให้มีการ..

data-ad-format="autorelaxed">


FK Talk เจาะประเด็นเกษตร วันพุธที่ 17 ตุลาคม 2555

เลคติน สารประกอบเคมีที่ได้จากกล้วย กับการออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ HIV-11, 2 กล้วย3 มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Musa sp. อยู่ในวงศ์ Musaceae เป็นไม้ล้มลุกมีลำต้นใต้ดิน ลำต้นบนดินรูปทรงกระบอก เกิดจากกาบหุ้มซ้อนกันสูง 2-4 เมตร ใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับซ้อนกันรอบต้นที่ปลายยอดเป็นรูปขอบขนาน กว้าง 2.5-4.5 เมตร ยาว 1- 2 เมตร ก้านใบค่อนข้างกลมหนา ด้านบนเป็นร่องลึก ผิวใบเรียบมัน ท้องใบมีสีอ่อนกว่า มีนวล ดอกออกเป็นช่อในลักษณะห้อยหัวลง ยาว 30-60 เซนติเมตร เรียกว่า ปลี ออกที่ปลายยอด มีใบประดับหุ้มช่อ ดอกสีแดงหรือสีม่วงขนาดใหญ่เรียกว่า กาบ ดอกย่อยออกเรียงกันเป็นแผง มีกาบหุ้มรองรับอยู่โดยดอกที่อยู่ส่วนปลายช่อเป็นดอกตัวผู้ ดอกที่โคนช่อเป็นดอกตัวเมีย ผลจึงออกเป็นช่อ เรียกว่า เครือแต่ละช่อย่อย เรียกว่า หวี กล้วยหวีหนึ่งมีประมาณ 10 ผล เป็นผลสดกลมยาว ขนาด รูปร่าง และรสขึ้นอยู่กับพันธุ์ เนื้อกล้วยมีสีเหลืองครีม เมื่อสุกมีรสหวานรับประทานได้มักไม่มีเมล็ด ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อหรือแยกเหง้า ไม่ชอบดินที่มีน้ำขัง จะอยู่ในดินร่วนซุยและดินเหนียว ที่อุ้มน้ำได้ดี ในตำรายาไทยกล่าวถึงสรรพคุณของกล้วย ในการใช้บำบัดรักษาโรคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ คือ

ราก แก้ไข้รากสาด แก้ไข้ตัวร้อน แก้ขัดเบา

เหง้า ตำป่นทาท้องน้อยคนคลอดบุตร ทำให้ รกลอก ภายหลังการคลอดบุตร

ต้น ห้ามเลือด ทากันผมร่วงและทำให้ผมขึ้น แก้โรคไส้เลื่อน

ใบ รักษาโรคท้องเสีย แก้บิด ห้ามเลือด แก้ผื่นคัน ตามผิวหนัง

ยางจากใบ ห้ามเลือด สมานแผล ดอก รักษาโรคเบาหวาน

ผล บำรุงกำลัง บำรุงเลือด เป็นยาระบาย รักษา อาการอาหารไม่ย่อย ท้องขึ้น มีกรดมาก สมานแผล แก้โรคบิด รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แก้ท้องร่วง แก้ริดสีดวงทวาร

จะเห็นได้ว่ากล้วยมีสรรพคุณกว้างขวาง และ พบสารสำคัญหลายชนิดในกล้วย เช่น benzopyrene,dopamine, epinephrine, tryptamine และ serotonin เป็นต้น โดยผลดิบมีสารแทนนินมาก จึงรักษาอาการท้องเสีย และบิด และมีฤทธิ์ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร เชื่อว่าเกิดจากการกระตุ้นผนังกระเพาะอาหารให้หลั่งสารเมือกออกมามากขึ้น และกระตุ้นให้เนื้อเยื่อของกระเพาะเจริญเพื่อปิดแผล เมื่อเปรียบเทียบกับยารักษาโรคกระเพาะอื่น ๆ ซึ่งเป็นสารเคมีสังเคราะห์ เช่น aluminium hydroxide,cimetidine เป็นต้น สารประเภทนี้สามารถป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะได้ แต่ไม่สามารถสมานแผลได้เหมือนกล้วย สารที่มีฤทธิ์ต้านแผลในกระเพาะของกล้วยคือ sitoindoside I ถึง IV โดยสาร sitoindoside IV เป็นสารที่มีฤทธิ์มากที่สุด ไม่พบฤทธิ์ต้านการเกิดแผลของกระเพาะอาหารในกล้วยสุก แต่กล้วยสุกมีสรรพคุณเป็นยาระบายสำหรับผู้ที่เป็นริดสีดวงทวารหรือผู้มีอุจจาระแข็งนอกจากนี้ ในกล้วยยังพบสารประกอบประเภทเลคติน (Lectin) ซึ่งเป็นชื่อเรียกของกลุ่มโปรตีนหรือไกลโคโปรตีนที่สามารถจับกับคาร์โบไฮเดรตอย่างจำเพ าะและมีความสามารถทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงของสัตว์หลายชนิดจับกลุ่มตกตะกอน มีรายงานการค้นพบเลคตินหลายร้อยชนิดจากแบคทีเรีย รา พืช และสัตว์แต่ส่วนใหญ่ได้มาจากพืช จากการศึกษาถึงบทบาทของเลคตินในพืชพบว่า เลคติน มีบทบาทที่น่าสนใจในการทำหน้าที่เป็นโมเลกุลป้องกัน (Defensivemolecules) ที่ป้องกันพืชจากการรุกรานของจุลชีพและไวรัส เลคตินจากพืชมักจับอย่างจำเพาะกับน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตมากกว่า 1 ตำแหน่ง ได้แก่ mannose,glucose, galactose, Nacetylgalactosamine, N-acetylglucosamine และ fucose เป็นต้น โดยจะจับกันอย่างหลวมและแยกออกจากกันได้

ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จาก University of Michigan Medical School ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ทำการศึกษาค้นคว้าและเปิดเผยถึงรายละเอียดงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับ สารที่สกัดได้จากกล้วยว่ามีความสามารถในการยับยั้งการแพร่ของเชื้อ HIV ได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการค้นพบที่จะทำให้มีการพัฒนาวิธีการป้องกันหรือการรักษาการแพร่ของเชื้อโรคจากการมีเพศสัมพันธ์อี กด้วยซึ่งสารที่สกัดได้นี้มีชื่อว่าแบนเลค (BanLec)4แบนเลค (BanLec) เป็นสารประกอบเลคตินที่แยกได้จากผลกล้วย Musa acuminata ที่มีความสามารถในการหยุดยั้งการเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ต่าง ๆ ที่ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ ซึ่งโครงสร้างสามมิติของแบนเลค การทำงานของแบนเลค จะเข้าไปทำการยับยั้ง การแพร่ของเชื้อ HIV โดยการเข้าไปจับกับ glycosylatedHIV-1 envelope protein ที่เรียกว่า gp120 และขัดขวางไม่ให้เชื้อเข้าสู่เซลล์แบนเลคสามารถนำไปใช้เป็นส่วนประกอบ ของสารที่ผลิตตัวยาป้องกันโรคเอดส์และส่วนประกอบของอุปกรณ์หรือตัวช่วยที่ป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอดได้

การป้องกันการเกิดโรคจากเชื้อ HIV ถือว่ามีความสำคัญมาก เนื่องจากการเกิดโรคเชื้อ HIV มีอัตราที่สูงมากขึ้นโดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศที่ยากจนค่าใช้จ่ายในการรักษาในขณะนี้ก็ยังสู งอยู่ในประเทศที่กำลังพัฒนา ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะใช้วิธีการป้องกันการติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่น้อยดังนั้น การพัฒนาวิธีการป้องกันการติดเชื้อแบบใหม่นี้ก็มีความเป็นไปได้ที่คนจะสนใจมากขึ้น สารโปรตีนเลคตินจากกล้วยนี้ยังมีความสามารถในการป้องกันการแพร่ของเชื้อไวรัสที่เข้ามาสู่ร่างกายได้อีกด้วย และราคาของยาที่ผลิตด้วยสารประกอบจากธรรมชาติอย่างกล้วยก็น่าจะมีราคาที่ถูกกว่าส่วนผสมที่ใช้ในยาต้านเชื้อ HIV ที่ใช้ในปัจจุบันอย่าง T-20 และ Maraviroc ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์กำลังทำการทดลองเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์ว่ายาที่มีส่วนผสมของสารเลคตินจากผลกล้วยเป็น หลักจะสามารถทำงานในการยับยั้งการแพร่ของเชื้อ HIV ได้เพียงพอหรือไม่ทั้งในการติดเชื้อระยะยาวและเรื้อรัง หรือว่าต้องมีการใช้ควบคู่กับการรักษากับยาตัวอื่นหรือวิธีการ รักษาอื่น

อ้างอิงจาก ดร.คมกริช หาสิตะพันธุ์ กลุ่มวิจัยอุตสาหกรรมเภสัชและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ (R&D Newsletter ปีที่ 17 ฉบับที่ 4 ตุลาคม - ธันวาคม 2553 วารสารเพื่อการวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม)


อ่านเรื่องนี้แล้ว : 22599 คน £




ความคิดเห็นจากผู้อ่าน:

ส่งความคิดเห็น



เลือกหมวด :

แสดงเนื้อหารวมจากทุกหมวด, สินค้าเกษตร, ไอเดียและเทคโนโลยีเกษตร, รวม VDO เด่นจาก FK, นาข้าว, เศรษฐกิจเกษตร, ภาพถ่ายเกษตร, ไร่อ้อย, มันสำปะหลัง, ยางพารา, ปาล์มน้ำมัน, ไร่ข้าวโพด, ผักและการปลูกผัก, การปลูกพืช, ไม้ผล ไม้ยืนต้น, เกษตรน่ารู้, สมุนไพร, ไม้มงคล, พุทธศึกษา, FK Talk, สุขภาพ, การใช้ SUN กับพืชต่างๆ, แอพฯด้านเกษตร, ไม้ดอก ไม้ประดับ, องค์กรด้านเกษตร, ซื้อขายที่ดิน, ห้องปศุสัตว์, ประมง, เกษตรกรตัวอย่าง, ฟาร์มเกษตรพาเที่ยว, FK Freestyle, Agri live update, ออแกนิกส์, จักรกล, อุปกรณ์การเกษตร, ไร่กาแฟ,


แสดงทั้งหมดใน [FK Talk]:
การปลูกมันสำปะหลัง จริงหรือปลูกมันได้ 30-60 ตันต่อไร่
การปลูกมันสำปะหลัง ไขข้อข้องใจ จริงหรือไม่ 30-60 ตัน บรรยายโดยละเอียดที่สุด ทุกขั้นตอน การเลือกพันธุ์มันสำปะหลัง
อ่านแล้ว: 59949
แนะผู้ปลูกพริกไทย...รับมือตลาดเสรีอาเซียน
คาดว่าจะมีการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านในปริมาณมากขึ้น โดยเฉพาะเวียดนามซึ่งเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ อาจส่งผลให้ราคา
อ่านแล้ว: 33511
ธาตุรองและธาตุเสริมสำคัญต่อพืช
ความสำคัญ และประโยชน์ของ ธาตุรอง และธาตุเสริมที่มีต่อพืช แคลเซียม แมกนีเซียม ซิลิกอน
อ่านแล้ว: 35096
แก้โรคราแป้งกับยางพารา ที่เกิดจากเชื้อราออยเดียม
ใบอ่อนตรงปลายใบจะบิดงอ มีสีดำ ร่วงหล่นมาจากต้น จะสังเกตุเห็นเส้นใยสีขาวใต้แผ่นใบแก่
อ่านแล้ว: 30026
แก้โรคยางใบร่วง โรคเชื้อราไฟทอปโทร่า ยางพารา
แก้โรคเชื้อรา Phytophthora botryosa เป็นโรคยอดฮิตที่เกิดขึ้นกับยางพารา หลายๆ ท่านปวดหัวกับเจ้าเชื้อราตัวร้ายนี้เป็นอย่างมาก
อ่านแล้ว: 32743
กฟก.สรุปผลงาน เตรียมเดินหน้าวางแผนงานช่วยเหลือพัฒนาเกษตรกรไทย
สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จัดสัมมนาผู้บริหาร สรุปการดำเนินงานของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร(กฟก.) เมื่อวันที่ 17-19 ตุลาคม 2555 ที่จังหวัดนครนายก
อ่านแล้ว: 22628
ระวังโรคไหม้ข้าวระบาด
เกษตรกรปลูกข้าวต้องระวังโรคไหม้ข้าวระบาด สาเหตุจากเชื้อราที่มากับอากาศที่เริ่มหนาว ซึ่งทำให้เกิดโรคไหม้ในทุกระยะของข้าว
อ่านแล้ว: 26042
หมวด FK Talk ทั้งหมด >>