ฟาร์มตัวอย่างฯโคกบาฆาบือซา

ฟาร์มตัวอย่างฯโคกบาฆาบือซา จากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่องมาหลายปี เป็นผลให้การเดินทางของประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก อันเป็นผลมาถึงการบริโภค เนื่องจากระบบการขนส่งสินค้าเพื่อการยังชีพประจำวันต้องประสบกับปัญหา

สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีความเป็นห่วงเป็นใยในชีวิต และความเป็นอยู่ของราษฎรในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อเกษตรกรผู้ยากไร้โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ซึ่งขาดความเข้าใจเกี่ยวกับการทำการเกษตร ขาดที่ดินทำกิน จึงมีพระราชดำริกับผู้ช่วยเลขาธิการพระราชวัง (นายสหัส บุญญาวิวัฒน์) ในขณะนั้น ประสานกับทางจังหวัดนราธิวาส จัดหาพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ เพื่อจัดทำฟาร์มตัวอย่างในลักษณะเดียวกับฟาร์มตัวอย่างอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่มีพระราชดำริให้จัดทำขึ้นที่บ้านตุงติง อำเภอสะเมิง และบ้านขุนแตะ อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อฝึกวิชาชีพด้านการเกษตรแก่ชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง โดยประสบผลสำเร็จในการดำเนินงานอย่างดียิ่ง

ทางจังหวัดนราธิวาสและศูนย์ศึกษาพัฒนาพิกุลทองอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนราธิวาส จึงได้ประสานงานกับหน่วยราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อขอพื้นที่บริเวณที่สาธารณประโยชน์ โคกปาฆาบือซา ตำบลกะลุวอ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส มาจัดทำเป็นสถานที่ฝึกและสาธิตการพัฒนาการเกษตรให้กับราษฎรทุกศาสนาในพื้นที่

มีการจัดทำระบบน้ำ ด้วยการขุดสระเก็บน้ำ จัดทำระบบส่งน้ำภายในโครงการฟาร์มตัวอย่างฯ ขุดเจาะบ่อบาดาล ก่อสร้างบ่อพักน้ำ สร้างถังเก็บน้ำ พร้อมระบบกรองน้ำวางท่อส่งน้ำ เพื่อกระจายน้ำไปยังแปลงปลูกทุกแปลงภายในฟาร์มตัวอย่างฯ เป็นต้น

ในขณะที่หน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่นับตั้งแต่การปรับปรุงดิน การนำเมล็ดพันธ์ุพืชชนิดต่าง ๆ มาลงปลูก ซึ่งการดำเนินการเหล่านี้จะเป็นไปตามเป้าหมาย คือ เพื่อการเพาะปลูกพืชอาหารให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ใช้บริโภคอย่างเพียงพอ โดยไม่ต้องออกไปหาซื้อจากภายนอกที่ห่างไกล หรือรอคอยให้มีการนำเข้ามาจำหน่ายภายในชุมชน และเพื่อการฝึกอบรมประชาชนในพื้นที่ให้มีความรู้ความเข้าใจในการเพาะปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้องเพื่อให้ได้รับผลผลิตที่ดีและมีปริมาณมาก

สำหรับแรงงานที่เข้ามาทำงานภายในฟาร์มนั้นจะเป็นประชาชนทุกศาสนาในพื้นที่ ซึ่งในระหว่างทำงานภายในฟาร์มก็จะได้รับค่าแรง โดยที่การเรียนรู้นั้นไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่ประการใด แทบทุกคนที่เข้าทำงานภายในฟาร์มแห่งนี้จะมีแปลงการเกษตรปลูกพืชชนิดต่าง ๆ ที่ถนัดในพื้นที่ของตนเองทุกราย โดยในแต่ละวันเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจภายในฟาร์มตัวอย่างฯ แล้วก็จะกลับบ้านทำการเกษตรของตนเองต่อไป

การดำเนินการเช่นนี้นับเป็นการดำเนินงานที่ให้ประโยชน์แก่ประชาชนในพื้นที่ถึง 4 ชั้นด้วยกัน โดยชั้นที่ 1 ทุกคนมีรายได้ประจำจากการเป็นคนงานภายในฟาร์ม ชั้นที่ 2 ทุกคนมีความรู้ในการทำกินโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ชั้นที่ 3 ทุกคนมีแปลงเพาะปลูกของตนเองที่บ้านที่เพาะปลูกอย่างถูกหลักวิชาการเกษตร และชั้นที่ 4 ทุกคนมีกินจากพืชผักที่ปลูกทั้งในฟาร์มและที่บ้าน ส่วนรายได้ประจำเดือนจากการทำงานภายในฟาร์มเก็บออมหรือจับจ่ายในสิ่งที่ขาดเหลือต่อไป

นับเป็นการดำเนินการที่ยึดหลักพึ่งตนเอง แม้สถานการณ์จะหนักหน่วงขนาดไหนก็ตาม ทุกคนในพื้นที่ก็ยังมีกิน มีใช้อย่างไม่ขัดสน แถมสุขภาพดีอีกต่างหากเพราะได้ใช้ชีวิตและบริโภคอาหารที่สะอาดถูกหลักอนามัยนั่นเอง.

อ้างอิง:www.dailynews.co.th

ส่งความคิดเห็น